ผลงานของชายคนหนึ่งซึ่งนอกจากตามหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว ต้องเรียนรู้ศึกษาหาความรู้เอง ทั้งหลักธรรมและการประพันธ์ ชอบคิด-วิเคราะห์-สรุปบทเรียนใหม่เป็นประจำ แล้วบันทึกไว้เป็นบทกวีเพราะมิเช่นนั้นจะลืมบทเรียนเก่า คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง จึงโพสต์สู่สื่อสาธารณะ
ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
วันพุธที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2568
วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2568
วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568
วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2568
"เธอกับฉัน" : กลอนจรรโลงใจ
พระคึกฤทธิ์ แอบกิ๊ก เปย์หนัก สีกาไฮโซ เงินวัดหายพันล้าน : [sondhiX]
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568
เผาไหม้ตัวเอง : กลอนคติเตือนใจ
เผาไหม้ตัวเอง : กลอนคติเตือนใจ
วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2568
ผ้ากาสาวพัสตร์กับไฟ : กาพย์ยานี๑๑
คลิปจาก พะยูนนิวส์ Payoonnews(มีคลิปที่เกี่ยวข้องเยอะมาก)
ผ้ากาสาวพัสตร์กับไฟ : กาพย์ยานี๑๑
ภยสูตรที่ ๒ [๑๒๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัย ๔ ประการนี้ คนผู้ลงน้ำจะพึงหวังได้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ ภัยคือคลื่น ๑ ภัยคือจระเข้ ๑ ภัยคือน้ำวน ๑ ภัย คือปลาฉลาม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัย ๔ ประการนี้แล คนผู้ลงน้ำพึงหวังได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัย ๔ ประการนี้ กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ผู้ออกบวชเป็น บรรพชิตด้วยศรัทธา ในธรรมวินัยนี้พึงหวังได้ ฉันนั้นเหมือนกันแล ๔ ประการ เป็นไฉน คือ ภัยคือคลื่น ๑ ภัยคือจระเข้ ๑ ภัยคือน้ำวน ๑ ภัยคือปลาฉลาม ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภัยคือคลื่นเป็นไฉน กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ออกบวชเป็น บรรพชิตด้วยศรัทธา ด้วยคิดว่า เราถูกชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ครอบงำ ชื่อว่าตกอยู่ในกองทุกข์ มีทุกข์เป็นเบื้องหน้า แม้ไฉนการกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ เธอบวชอย่างนั้นแล้ว เพื่อนสพรหมจารีตักเตือน สั่งสอนว่า ท่านพึงก้าวไปอย่างนี้ พึงถอยกลับอย่างนี้ พึงแลดูอย่างนี้ พึงเหลียวดูอย่างนี้ พึงคู้เข้าอย่างนี้ พึงเหยียดออกอย่างนี้ พึงทรงสังฆาฏิ บาตรและจีวรอย่างนี้ เธอย่อมคิดอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นคฤหัสถ์ มีแต่จะตักเตือนสั่งสอนผู้อื่น ก็ภิกษุเหล่านี้คราวลูกคราวหลานของเรา สำคัญเราว่า ควรตักเตือนสั่งสอน เธอโกรธเคืองแค้นใจ บอกคืนสิกขาลาเพศ ภิกษุนี้เรียกว่า เป็นผู้กลัวต่อภัยคือคลื่น บอกคืนสิกขาลาเพศ ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่าภัยคือคลื่นนี้ เป็นชื่อแห่งความโกรธและความแค้นใจ นี้เรียกว่าภัยคือคลื่น ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภัยคือจระเข้เป็นไฉน กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา ด้วยคิดว่า เราถูกชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ครอบงำ ชื่อว่าตกอยู่ในกองทุกข์ มีทุกข์ เป็นเบื้องหน้า แม้ไฉน การกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ เธอบวชอย่างนั้นแล้ว เพื่อนสพรหมจารีตักเตือนสั่งสอนว่า สิ่งนี้เธอควรเคี้ยว สิ่งนี้ไม่ควรเคี้ยว สิ่งนี้ควรบริโภค สิ่งนี้ไม่ควรบริโภค สิ่งนี้ควรลิ้ม สิ่งนี้ ไม่ควรลิ้ม สิ่งนี้ควรดื่ม สิ่งนี้ไม่ควรดื่ม ของเป็นกัปปิยะเธอควรเคี้ยว ของเป็น อกัปปิยะเธอไม่ควรเคี้ยว ของเป็นกัปปิยะเธอควรบริโภค ของเป็นอกัปปิยะเธอ ไม่ควรบริโภค ของเป็นกัปปิยะเธอควรลิ้ม ของเป็นอกัปปิยะเธอไม่ควรลิ้ม ของเป็นกัปปิยะเธอควรดื่ม ของเป็นอกัปปิยะเธอไม่ควรดื่ม เธอควรเคี้ยวในกาล เธอไม่ควรเคี้ยวในวิกาล เธอควรบริโภคในกาล เธอไม่ควรบริโภคในวิกาล เธอ ควรลิ้มในกาล เธอไม่ควรลิ้มในวิกาล เธอควรดื่มในกาล เธอไม่ควรดื่มในวิกาล เธอย่อมคิดอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นคฤหัสถ์ ปรารถนาสิ่งใดก็เคี้ยวสิ่งนั้น ไม่ ปรารถนาสิ่งใดก็ไม่เคี้ยวสิ่งนั้น ปรารถนาสิ่งใดก็บริโภคสิ่งนั้น ไม่ปรารถนา สิ่งใดก็ไม่บริโภคสิ่งนั้น ปรารถนาสิ่งใดก็ลิ้มสิ่งนั้น ไม่ปรารถนาสิ่งใดก็ไม่ลิ้ม สิ่งนั้น ปรารถนาสิ่งใดก็ดื่มสิ่งนั้น ไม่ปรารถนาสิ่งใดก็ไม่ดื่มสิ่งนั้น ย่อมเคี้ยว สิ่งที่เป็นกัปปิยะบ้าง สิ่งที่เป็นอกัปปิยะบ้าง ย่อมบริโภคสิ่งที่เป็นกัปปิยะบ้าง สิ่งที่ไม่เป็นอกัปปิยะบ้าง ย่อมลิ้มสิ่งที่เป็นกัปปิยะบ้าง สิ่งที่เป็นอกัปปิยะบ้าง ย่อมดื่มสิ่งที่เป็นกัปปิยะบ้าง สิ่งที่เป็นอกัปปิยะบ้าง ย่อมเคี้ยวในกาลบ้าง ใน วิกาลบ้าง ย่อมบริโภคในกาลบ้าง ในวิกาลบ้าง ย่อมลิ้มในกาลบ้าง ในวิกาลบ้าง ย่อมดื่มในกาลบ้าง ในวิกาลบ้าง คฤหบดีผู้มีศรัทธาย่อมถวายของควรเคี้ยว หรือ ของควรบริโภคแม้ใด อันประณีต ในกลางวัน ในเวลาวิกาลแก่เราทั้งหลาย ภิกษุเหล่านี้ ย่อมกระทำเสมือนหนึ่งปิดปากแม้ในของเหล่านั้น เธอโกรธเคือง แค้นใจ บอกคืนสิกขาลาเพศ ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่าภัยคือจระเข้นี้แล เป็นชื่อ แห่งความเป็นผู้เห็นแก่ท้อง นี้เรียกว่าภัยคือจระเข้ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภัยคือน้ำวนเป็นไฉน กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา ด้วยคิดว่า เราถูกชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ครอบงำ ชื่อว่าตกอยู่ในกองทุกข์ มีทุกข์ เป็นเบื้องหน้า แม้ไฉน การกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ เธอบวชแล้วอย่างนี้ เวลาเช้านุ่งแล้วถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังบ้าน หรือนิคม ไม่รักษากาย วาจา ใจ ไม่ตั้งสติ ไม่สำรวมอินทรีย์ เธอเห็นคฤหบดี ในบ้านหรือนิคมนั้น เพรียบพร้อมบำเรอตนอยู่ด้วยกามคุณ ๕ เธอคิดอย่างนี้ว่า เมื่อก่อนเราเป็นคฤหัสถ์เพรียบพร้อม บำเรอตนอยู่ด้วยกามคุณ ๕ ก็โภคสมบัติ ในสกุลของเรามีพร้อม เราอาจเพื่อจะบริโภคโภคะทั้งหลายและทำบุญได้ ถ้า กระไรเราพึงบอกคืนสิกขาลาเพศ แล้วบริโภคโภคะทั้งหลายและทำบุญเถิด เธอ ย่อมบอกคืนสิกขาลาเพศ ภิกษุนี้เรียกว่า กลัวต่อภัยคือน้ำวน บอกคืนสิกขา ลาเพศ ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่าภัยคือน้ำวนนี้ เป็นชื่อของกามคุณ ๕ นี้เรียกว่า ภัยคือน้ำวน ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภัยคือปลาฉลามเป็นไฉน กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา ด้วยคิดว่า เราถูกชาติ ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาส ครอบงำ ชื่อว่าตกอยู่ในกองทุกข์ มีทุกข์ เป็นเบื้องหน้า แม้ไฉน การกระทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ จะพึงปรากฏ เธอบวชแล้วอย่างนี้ เวลาเช้านุ่งแล้วถือบาตรและจีวร เข้าไปบิณฑบาตยังบ้าน หรือนิคม ไม่รักษากาย วาจา ใจ ไม่ตั้งสติ ไม่สำรวมอินทรีย์ เธอเห็นมาตุคาม ในบ้านหรือนิคมนั้น นุ่งไม่เรียบร้อย หรือห่มไม่เรียบร้อย ราคะย่อมรบกวนจิต ของเธอ เพราะเห็นมาตุคามนุ่งไม่เรียบร้อย หรือห่มไม่เรียบร้อย เธอมีจิต อันราคะรบกวน ย่อมบอกคืนสิกขาลาเพศ ภิกษุนี้เรียกว่า กลัวต่อภัย คือปลาฉลาม บอกคืนสิกขาลาเพศ ดูกรภิกษุทั้งหลาย คำว่า ภัยคือปลาฉลามนี้ เป็นชื่อของมาตุคาม นี้เรียกว่า ภัยคือปลาฉลาม ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภัย ๔ ประการนี้แล กุลบุตรบางคนในโลกนี้ ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา ใน ธรรมวินัยนี้ จะพึงหวังได้ ฯ
วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568
ตำรวจพบ 9 คน เกี่ยวข้องข้อกล่าวหา “วัดนาป่าพง” ปมเงินวัดและสีกา | ข่าวค่...
วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568
วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568
วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568
วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2568
🟠สด! "ทักษิณ" ไม่รอดปม "ชั้น 14" เกาะติดศาลฎีกาหลังรู้ผลคดี | ไลฟ์วันนี้...
การรับรู้ชีวิต : กาพย์ยานี๑๑
การรับรู้ชีวิต : กาพย์ยานี๑๑
วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2568
วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568
วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2568
วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2568
ด่วน! ตีกลับ ร่างพ.ร.ฎ.ยุบสภา ขัดระเบียบ-รัฐบาลรักษาการทำไม่ได้
ด่วน! ตีกลับ ร่างพ.ร.ฎ.ยุบสภา ขัดระเบียบ-รัฐบาลรักษาการทำไม่ได้
วันนี้(3 ก.ย. 68) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ตามที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ได้นำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา ขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเห็นต่างของหลายฝ่ายในข้อกฎหมายว่ามีอำนาจดำเนินการหรือไม่นั้น
ล่าสุด วันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้รับแจ้งเป็นหนังสือตีกลับจากสำนักองคมนตรี ในฐานะหน่วยงานกลั่นกรอง และถวายความเห็นประกอบการกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และทรงลงพระปรมาภิไธย พร้อมกับส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา มายัง สลค.
โดยหนังสือนำส่งกลับคืนมา ระบุว่า การกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นไปตามระเบียบการนำเสนอเพื่อขอพระมหากรุณา เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีปัญหาข้อขัดแย้ง ว่ากระทำได้หรือไม่
ประกอบกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ทำความเห็นประกอบว่า รัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ได้ จึงไม่สามารถกราบบังคมทูล เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ได้
https://www.thansettakij.com/politics/637862?fbclid=IwY2xjawMlFDdleHRuA2FlbQIxMABicmlkETE3OW5PMTFrRTBXNXpORjc2AR52E8G_trSzc8UbbBuUHPfkcjabK8BaAX4GhzjnvC7_HPp9KFS7zJFpUdAAKw_aem_LKu__3aNBuuLjbczFb1vAQ
วันอังคารที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568
วันจันทร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2568
วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568
สภาพัฒน์เตือนการคลังไทยจ่อวิกฤต
สภาพัฒน์เตือนการคลังไทยจ่อวิกฤต
วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568
สายสัมพันธ์ : กาพย์ยานี๑๑
สายสัมพันธ์ : กาพย์ยานี๑๑
วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568
เตรียมรับมือ! 22-24 ส.ค. ฝนเพิ่ม-มีสภาวะฝนสุดขั้ว จับตา'พายุหมุนเขตร้อน'
วันที่ 22 สิงหาคม 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตผลการพยากรณ์โอกาสความน่าจะเป็นของการเกิดฝนมากกว่า 10 มม. ทุกๆ 24 ชม. สภาพอากาศสุดขั้วแบบ Multi-parameters (Extreme Forecast Index (EFI) และโอกาสของความน่าจะเป็นในการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อน (Tropical cyclone activity (Including genesis) (ทุกๆ 48 ชม.)จากศูนย์พยากรณ์ระยะกลางยุโรป (ECMWF) init.2025082112
ในช่วง 22 – 24 ส.ค. 68 ปัจจัยที่ทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกต่อเนื่องบริเวณประเทศไทยยังมาจากอิทธิพลของมรสุมที่พัดปกคลุม มีสภาวะฝนสุดขั้ว (Extreme) ไม่เด่นชัดในช่วงแรก โอกาสเกิดฝนยังมากด้านรับมรสุมบริเวณภาคกลางด้านตะวันตกและภาคตะวันออก
ส่วนช่วง 24 – 27 ส.ค.68 มีความชัดเจนขึ้น เนื่องจากคาดว่าจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุมภาคเหนือและภาคอีสาน ประกอบกับมีแนวร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากได้บางแห่ง ซึ่งสอดคล้องกับโอกาสการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ มีเพิ่มขึ้น (มากกว่า 80 %)ในช่วงดังกล่าว มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น แต่จะแรงขึ้นถึงระดับพายุหมุนเขตร้อนได้หรือไม่ยังต้องติดตาม เนื่องจากยังอยู่ในทะเล ทิศทางยังมีการเปลี่ยนแปลง เพราะจากแบบจำลองต่างๆ ยังให้ไม่สอดคล้องกัน ยังต้องติดตามเป็นระยะๆ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกกับสื่อสังคมโซเชียลที่มีการเผยแพร่อยู่ในขณะนี้
วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568
วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2568
หลักการพื้นฐานของศาสนาพุทธ : กลอนคติธรรม
หลักการพื้นฐานของศาสนาพุทธ : กลอนคติธรรม
ไฟเสมอด้วยราคะไม่มี โทษเสมอด้วยโทสะไม่มี ทุกข์ทั้งหลายเสมอด้วยขันธ์ไม่มี สุขอื่นนอกจาก ความสงบ (นิพพาน) ก็ไม่มี เมื่อรู้ความข้อนั้น ตามที่เป็นจริงแล้ว ดับเสียได้เป็นสุขอย่างยิ่ง. นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง - ธ. ขุ. ๒๕/๔๒/๒๕. ขึ้นชื่อว่า นิพพาน อันบุคคลเห็นได้ยาก ไม่มีตัณหาเครื่องน้อมไป. เพราะว่านิพพานนั้น เป็นธรรมชาติจริงแท้ อันบุคคลเห็นไม่ได้ง่ายเลย. - อุ. ขุ. ๒๕/๒๐๗/๑๕๙. ณ ที่นั้นแล ท่านพระสารีบุตร กล่าวกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย นิพพานนี้เป็นสุข ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย นิพพานนี้เป็นสุข เมื่อท่านพระสารีบุตรกล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระอุทายีได้กล่าวกะท่านพระสารีบุตรว่า ดูก่อนอาวุโสสารีบุตร นิพพานนี้ไม่มีเวทนา จะเป็นสุขได้อย่างไร. ท่านพระสารีบุตร กล่าวว่า ดูก่อนอาวุโส นิพพานนี้ ไม่มีเวทนา นั่นแหละเป็นสุข จักษุอันน่าปรารถนาน่าใคร่น่าพอใจ เป็นที่รักยั่วยวนชวน ให้กำนัด เสียง ที่จะพึง รู้แจ้ง ด้วยหู ฯลฯ กลิ่น ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจมูก ฯลฯ รส ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้น ฯลฯ กามคุณ ๕ ประการนี้แล ดูก่อนอาวุโส สุขโสมนัสย่อมเกิดขึ้น เพราะอาศัยกามคุณ ๕ประการนี้ นี้เรียกว่า กามสุข. ดูก่อนอาวุโสภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม ฯลฯ บรรลุปฐมฌานอยู่ ถ้าเมื่อภิกษุ นั้น อยู่ด้วยวิหารธรรมข้อนี้ สัญญามนสิการ อันสหรคต(1) ด้วยกาม ย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้น เป็นอาพาธของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์พึงเกิดขึ้น แก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อเบียดเบียนฉันใด สัญญามนสิการอันสหรคต ด้วยกามเหล่านั้น ย่อมฟุ้งซ่าน แก่ภิกษุนั้น ข้อนั้น เป็นอาพาธของเธอ ฉันนั้น เหมือนกัน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส เรียกอาพาธนั้นว่า เป็นความทุกข์ ดูก่อนอาวุโส นิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านจะพึงทราบได้โดย ปริยายแม้นี้. อีกประการหนึ่ง ภิกษุบรรลุทุติยฌาน ฯลฯ เพราะวิตกวิจารสงบไป ถ้าเมื่อภิกษุนั้น อยู่ด้วยวิหารธรรมข้อนี้ สัญญามนสิการอันสหรคต ด้วยวิตกย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้นเป็น อาพาธของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์พึงเกิดขึ้น แก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อ เบียดเบียน ฉันใด สัญญามนสิการอันสหรคต ด้วยวิตกเหล่านั้น ย่อมฟุ้งซ่าน แก่ภิกษุนั้น ข้อนั้นเป็นอาพาธ นั้น ว่าเป็นทุกข์ ดูก่อนอาวุโส นิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านพึงทราบ ได้โดยปริยาย แม้นี้. อีกประการหนึ่ง ภิกษุบรรลุตติยฌาน ฯลฯ ถ้าเมื่อภิกษุนั้นอยู่ด้วยวิหาร-ธรรมข้อนี้ สัญญามนสิการอันสหรคต ด้วยปีติย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์พึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อเบียดเบียนฉันใด สัญญามนสิการอันสหรคตด้วยปีติ ย่อมฟุ้งซ่านแก่ภิกษุนั้น ข้อนั้นเป็นอาพาธ ของเธอ ฉันนั้นเหมือนกัน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกอาพาธนั้นว่าเป็นความทุกข์ ดูก่อนอาวุโส นิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านพึงทราบได้โดยปริยายแม้นี้. อีกประการหนึ่ง ภิกษุบรรลุจตุตฌาน ฯลฯ ถ้าเมื่อภิกษุนั้น อยู่ด้วยวิหาร-ธรรมข้อนี้ สัญญามนสิการอันสหรคตด้วยอุเบกขาย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์พึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อเบียดเบียน ฉันใด สัญญามนสิการอันสหรคตด้วยอุเบกขา ย่อมฟุ้งซ่านแก่ภิกษุนั้น ข้อนั้นเป็นอาพาธ ของเธอ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกอาพาธนั้นว่า เป็นความทุกข์ ดูก่อนอาวุโส นิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านพึงทราบได้โดยปริยายแม้นี้. อีกประการหนึ่ง เพราะล่วงรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง ฯลฯ ภิกษุบรรลุ อากาสานัญจายตนฌาน โดยคำนึงเป็นอารมณ์ว่าอากาศไม่มีที่สุด ถ้าเมื่อภิกษุนั้นอยู่ด้วยวิหารธรรมข้อนี้ สัญญามนสิการอันหรคตด้วยรูปย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์ พึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อเบียดเบียน ฉันใด สัญญามนสิการอันสหรคตด้วยรูปย่อมฟุ้งซ่านแก่ภิกษุนั้น ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอ ฉันนั้นเหมือนกัน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกอาพาธ นั้นว่าเป็นความทุกข์ ดูก่อนอาวุโส นิพพานสุขอย่างไร ท่านพึงทราบได้โดยปริยาย แม้นี้. อีกประการหนึ่ง ภิกษุบรรลุวิญญาณัญจายตนฌาน ฯลฯ เมื่อภิกษุนั้นอยู่ด้วย วิหารธรรมข้อนี้ สัญญามนสิการอันสหรคตด้วยอากาสานัญจายตนะ ย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์พึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อเบียดเบียน ฉันใด สัญญามนสิการอันสหรคตด้วยอากาสาณัญจายตนะ ย่อมฟุ้งซ่านแก่ภิกษุนั้น ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอ ฉันนั้นเหมือนกัน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียกอาพาธนั้นว่าเป็นความทุกข์ ดูก่อนอาวุโส นิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านพึงทราบโดยปริยายแม้นี้. สัญญามนสิการอันสหรคต ด้วยวิญญาณัญจายตนะย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้นเป็นอาพาธ ของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์พึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อเบียดเบียน ฉันใด สัญญามนสิการอันสหรคตด้วย วิญญาณัญจายตนะ ย่อมฟุ้งซ่านแก่ภิกษุนั้น ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอฉันนั้นเหมือนกัน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกอาพาธนั้นว่าเป็นความทุกข์ ดูก่อนอาวุโส นิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านพึงทราบได้ปริยายแม้นี้. สัญญามนสิการอันสหรคตด้วยอากิญจัญญายตนะย่อมฟุ้งซ่าน ข้อนั้นเป็นอาพาธของเธอ เปรียบเหมือนความทุกข์พึงเกิดขึ้นแก่บุคคลผู้มีความสุข เพียงเพื่อเบียดเบียน ฉันใดสัญญามนสิการอันสหรคตด้วยอากิญจัญญายตนะ ย่อมฟุ้งซ่านแก่ภิกษุนั้น ข้อนั้นเป็นอาพาธ ของเธอ ฉันนั้นเหมือนกัน ซึ่งพระผู้มีพระภาคตรัสเรียกอาพาธนั้นว่าเป็นความทุกข์ ดูกรอาวุโส นิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านพึงทราบได้โดยปริยายแม้นี้ ฯ อาสวะทั้งหลายของเธอสิ้นรอบแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญา ดูกรอาวุโสนิพพานเป็นสุขอย่างไร ท่านพึงทราบได้โดย ปริยายแม้นี้ ฯ https://www.anakame.com/page/1_Sutas/500/529.htm |