ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

ความรักและความผูกพัน : กลอนรัก

                                          นกหงส์หยกที่ตายเป็นนกตัวผู้
                                    คนเคยเลี้ยงจะรู้ว่าต้องหานก(ตัวผู้)ตัวใหม่มาเลี้ยงเป็นคู่
                                               นกตัวเมียก็จะกลับมามีความสุขอีกครั้ง 
                           นกส่วนใหญ่จะครองคู่กันไปจนกว่าจะตายจากกัน จึงหาคู่ครองใหม่

                                         กรรณิการ์เป็นไม้ที่มีกลิ่นหอมแรง โดยจะบานตอนกลางคืน 
                                           ออกดอกตลอดปี นอกจากจะเป็นไม้ที่หอมแล้ว กรรณิการ์ยังเป็นสมุนไพรอีกด้วย 
                                                     และฐานรองดอกก็สามารถนำมาทำสีย้อมผ้าและสีทำขนมได้ด้วย










ความรักและความผูกพัน กลอนรัก

    ดวงหทัย(บริสุทธิ์) ให้กำเนิด เกิดความรัก.............ที่น้อยนัก จักแคลง สร้างแรงขืน
                                                                          (แคลง = ระแวง, สงสัย, กินแหนง)
รักดั่งช่อ กรรณิการ์ เพลา(กลาง)คืน......................หอมรมย์รื่น ชื่นฤทัย ไร้ราคี

    ความรัก(และ)ความ ผูกพัน เคียงกันอยู่................เกิด(พร้อมกัน)ประดัง พรั่งพรู เพียงสุขี
เปรียบเสมือน เดือนคู่ดาว คราวรัชนี......................โดยไม่มี เมฆา มากีดกัน

    รัก(คนอื่น)จะไม่ ให้โทษ โฉดฉลฉ้อ....................นอกจากก่อ การเมตตา สมานฉันท์
(ต่างจาก)รักที่ไพล่ ให้โทษ ข่าวโจษจัน.................คือรักอัน ซ่อนเร้น (ความ)เห็นแก่ตัว(รักตัวเอง)
(ไพล่=เอี้ยว,หลบไป,หลีกไป; แทนที่จะเป็นอย่างนี้กลับเป็นอีกอย่างหนึ่ง)

    "รักคือสิ่ง สวยงาม" เป็นความหมาย....................ของความรัก ที่ละลาย คลาย(ความ)โฉดชั่ว
รักที่พร้อม น้อม(ให้)อภัย ไม่น่ากลัว......................รักที่ยั่ว ยวนใจ (หา)ใช่รักจริง(แต่เป็นราคะ)

    รัก(แท้)ไม่ใช่ (สิ่งที่)ใครก็มี อย่างที่ชอบ-.............บอกกับเขา ราวครอบ ลอบกลอกกลิ้ง
ความฉ้อฉล คนหลาย ใคร่แอบอิง.........................นั่นเป็นสิ่ง ต้องระวัง(อย่าไว้ใจ) และตั้งใจ(แยกแยะ)

    มักเห็น(ความ)รัก ของคน ล้น(ความ)กำหนัด.........(ส่วนความ)รักของสัตว์ อัศจรรย์ล้วน ชวนหลงใหล(ในความบริสุทธิ์ใจ) 
เด่นประจักษ์ รัก(แท้)จริง แสนจริงใจ.....................(ที่)หาไม่ได้ ในคน(ที่) ล้นมารยา(คนหลอกลวง)

    "ที่ใดมี ความรัก มักมี(ความ)ทุกข์".....................มิใช่เมียง เพียงสุข (ควร)ฉุกคิดหนา
ความเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ในโลกา............................ย่อมเคียงคลุก ทุกชีวา เป็นอนันต์
                                                                            (อนันต์=ไม่มีสิ้นสุด)

    แม้ไร้รัก จักไร้ ในความสุข(ที่เกิดจากความรัก)......แต่ก็ไร้ ซึ่งทุกข์(โศก) เป็นสุขสันติ์(สุขแบบสงบ)
ธรรมชาติ ประสาท(ความ)รัก และ(ความ)ผูกพัน.......เพียงเพื่อสัตว์ สืบเผ่าพันธุ์ (จง)เท่าทันเทอญฯ
(ประสาท=ยินดีให้, โปรดให้)

๒๖ กันยายน ๒๕๖๗

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
๘. วิสาขาสูตร

......ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี มากมายหลาย
                          อย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก
                          เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร
                          และความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มี
                          สัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหนๆ ผู้นั้นเป็นผู้มีความ
                          สุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่
                          โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขาร
                          ให้เป็นที่รัก ในโลกไหนๆ ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น