อย่ารอท่า"ฟ้าหลังฝน" : กลอนจรรโลงใจ
๏ ฝนหยด รดริน ดินด่ำ.........................................ชุ่มฉ่ำ น้ำนอง ลำยองศรี(ลำยอง=สวย, งาม)
เพลินเมียง ฟังเสียง(ฝน)ซ่า กลางราตรี..............สุขี ฤดีเห็น เย็นสบาย
๏ คนเขา เฝ้าคิด พิจารณา....................................ยก "ฟ้า หลังฝน" ยลสลาย
งดงาม ล้ำเลิศ ช่างเพริศพราย..........................(น่า)เสียดาย ไม่ถนัด สัจธรรม
๏ นภา ทุกนาที บริสุทธิ์........................................วิมุต หลุดพ้น มลทินล้ำ(วิมุต=หลุดพ้น)
พิไล ใสสด จรดเช้า-ค่ำ....................................เมฆคล้ำ น้ำฝน พิมลมอง
๏ ไม่ว่า มนุษย์ ผุดความคิด...................................สร้างผล มลพิษ วิกฤตสนอง
ก็หา ทำให้ (ฟ้า)ไร้เรืองรอง..............................ภัยผอง ต้องสู่ พสุธา
๏ ชีวี ที่ชี้นำ ธรรมกุศล.........................................(ยาม)ขัดข้อง ต้องผจญ ท้นปัญหา
จิตใจ ไม่ติดขัด ความศรัทธา............................เสมือนฟ้า คราฝน ระคนครอง
๏ ยังคง ยงสู้ เหล่าอุปสรรค..................................เบา-หนัก ผลักดัน กรรม์ถูกต้อง(สัมมากัมมันตะ)
มิหยุด สุจริต จิตครรลอง..................................(มิ)ขาดตก บกพร่อง คล่องจรรยา
๏ (เมื่อ)เข้าใจ ตัวบท กฎแห่งกรรม........................ไม่ทำ ให้ท้อ ต่อปัญหา
ไม่เกิด เศร้าโศก กับโชคชะตา..........................เชื่อว่า ทำดี ย่อมได้ดี(ทำชั่วย่อมได้ชั่ว)
๏ อย่ามัว รอท่า "ฟ้าหลังฝน"...............................แยบยล หนทาง สว่างศรี
เมฆฝน ล้นฟ้า (ดุจ)มโหรี..................................สวยดี วิเศษ เพียงเพชรเอยฯ
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น