ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2568

ทักษะชีวิตพิชิตอุปสรรค : กลอนคติสอนใจ




“—รู้สึกเจ็บใจที่ถึงตรุษจีนทีไร เจ๊กปิดร้านขายของหมด หมูก็ไม่มีกินกับข้าวก็ไม่มีขาย 
เป็นเพราะคนไทยชอบแต่สบาย ทำราชการ ไม่รู้จักหัดทำมาค้าขายกับเขาบ้าง—”
... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/quotes-in-history/article_6047















ทักษะชีวิตพิชิตอุปสรรค กลอนคติสอนใจ

    ทักษะ=ความรู้ ความเชี่ยวชาญ*..................ของการ กระทำ นำสู่ผล-
สำเร็จ ชีวี งามวิมล....................................อันคน ไม่มี (เพราะ)มิใส่ใจ
                                                             
    ทักษะ ยั่งยืน ขั้นพื้นฐาน...........................ของการ โลกา อยู่อาศัย
(คือ)สามารถ อยู่รอด อย่างปลอดภัย.............และไม่ มีทุกข์ ทรมาน์

    สุขภาพ กาย-ใจ ให้สำคัญ.........................เป็นอัน ดับต้น(ๆ) พึงหนหา(หน=ทาง, ทิศ)
สุขภาพ ที่ดี มีคุณค่า..................................ยิ่งกว่า โชคลาภ ทรัพย์สินใด(ๆ)

    ทักษะ ในการ สื่อสารสุด-..........................ยอด,มนุษย์ สัมพันธ์ เชี่ยวชาญไข
เลิศล้ำ อำนวย ช่วยเอื้อให้...........................สุขะ อาศัย ในสังคม

    ทักษะ การคิด วิจารณญาณ.......................บันดาล บรรลุ อุกฤษณ์สม
ทัศน(ะ) คติ งามวิกรม...............................พาสู่ ความอุดม สมฤทัย

    ทักษะ ทำมา รู้(จัก)หากิน..........................(คือ)วิถี ชีวิน สินทรัพย์ไหล(มาเทมา)
(อยาก)มีอยู่ มีกิน มิสื้นใช้(ใช้ไม่หมด)...........อย่าไร้ ทักษะ อาชีวะ 

    ทักษะ ศึกษา และเรียนรู้............................ประเสริฐ เชิดชู บูรณะ
ให้(เป็นคน)เก่ง ให้(เป็นคน)ดี มีสุขะ..............พัฒนะ เจริญ ดำเนินชัย
  
    (จะมี)ทักษะ ต้องเพียร พร่ำเรียนรู้................ฝึกฝน จนสู่ รุจิใส
                                                            (รุจิ=แสง,ความรุ่งเรือง,ความงาม)
ไม่ว่า จะกระทำ (กิจ)กรรมอะไร.....................ล้วนต้องใช้ ทักษะ+มานะเอย

๒๙ มกราคม ๒๕๖๘

*รวมเรียกว่า ทักษะในการดำเนินชีวิต

วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568

การกระทำสำคัญกว่าความ(แค่)รู้























 การกระทำสำคัญกว่าความ(แค่)รู้ กลอนคติสอนใจ


    มหา(เปรียญ) มาถาม เรื่องทำบุญ..............ว่าคุณ(ทำบุญด้วยการ) สวดมนต์ ท่องบทไหน?
                                                               (พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่าสวดมนต์จะได้บุญ)
ตอบว่า ก็เลี้ยง แมววัดไง............................ทุกวัน(เช้า-เย็น) ทำไป ไม่ละเลย
                                                             
    มหา พาที นี่คือทาน................................พรหมวิหาร ทั้ง ๔ คลี่เฉลย
สอนธรรม (มะ)คล่อง ท่อง(จำ)คุ้นเคย...........เปิดเผย ว่า(มีความ)รู้ แต่ไม่ทำ

    แมวหมา ที่เขา เอามาทิ้ง(วัด)....................พระชิง ชังใส่ ไม่อุปถัมภ์
ลูกแมว ลูกหมา ตาดำๆ..............................จุนค้ำ ชีวาตม์ โดยญาติโยม
                                      (เอาอาหารไปเลี้ยงแมวหมาในวัด ยังถูกพระว่าทำให้วัดสกปรก)

    ให้ศีล สอนธรรม ตามพิธี...........................ทำที คึกคัก เหมือนหักโหม(พูดจริงทำจริง)
(ทั้ง)ผู้ให้ ผู้รับ มิซับโซรม............................สังคม โรมลาม ความอัปรีย์(โซรม=ช่วยกัน)

    ใส่ใจ การเรียน อย่าเพียรเล่น......................เด็กต่าง รู้เห็น เช่นวิถี
ผู้ใหญ่ สอนสั่ง หวัง(เด็ก)ได้ดี.......................แต่มี (เด็ก)กี่คน สนใจทำ?(ส่วนใหญ่เอาแต่เล่น)

    ใครไม่ รู้ว่า อย่าทุจริต?..............................(แต่)ใครคิด จริงจัง มิย่าง(ล่วง)ถลำ
กฎระเบียบ วินัย ใครใคร่จำ?..........................(ชอบ)ล่วงล้ำ กล้ำเกิน ดำเนินลาญ(ละเมิดกฎ)

    ปัญหา สภาวะ สิ่งแวดล้อม..........................สุมห้อม ชีวิต วิกฤติผลาญ
ต่าง(ก็)รู้ ทั่วไป (แต่)ไม่ต้องการ.....................กล้าหาญ ปฏิบัติ ตัดต้นตอ
  
    การกระทำ สำคัญ กว่าความ(แค่)รู้................มีผู้ ใส่ใจ เท่าไรหนอ?
สันดาน มนุษย์ สุดบ้าบอ...............................(เหมือน)คดในข้อ งอใน หทัยเอย

๒๕ มกราคม ๒๕๖๘

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
๕. พาลวรรค
หมวดว่าด้วยคนพาล
๑. อัญญตรปุริสวัตถุ
เรื่องชายคนใดคนหนึ่ง
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศล และชายคนหนึ่ง ดังนี้) [๖๐] ราตรีหนึ่ง ยาวนานสำหรับคนผู้ตื่นอยู่ ระยะทางโยชน์หนึ่ง ยาวไกลสำหรับคนผู้เมื่อยล้า สังสารวัฏยาวนานสำหรับคนพาลผู้ไม่รู้แจ้งสัทธรรม
๒. มหากัสสปสัทธิวิหาริกวัตถุ
เรื่องสัทธิวิหาริกของพระมหากัสสปเถระ
             (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุผู้อยู่ในกรุงราชคฤห์ ดังนี้)
             [๖๑] หากบุคคลเที่ยวหาคนดีกว่าตน หรือเสมอกับตนไม่ได้
                     ก็ควรถือการเที่ยวไปคนเดียวให้มั่นคง
                     เพราะจะหาความเป็นเพื่อนในคนพาลไม่ได้เลย
๓. อานันทเสฏฐิวัตถุ
เรื่องอานันทเศรษฐี
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่เศรษฐีชื่อมูลสิริบุตรของอานันทเศรษฐี ดังนี้) [๖๒] คนพาลย่อมเดือดร้อนว่า “เรามีบุตร เรามีทรัพย์” แท้จริง ตัวตนก็ไม่มี บุตรและทรัพย์จักมีแต่ที่ไหน
๔. คัณฐิเภทกโจรวัตถุ
เรื่องโจรผู้ทำลายปม
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่โจรผู้ทำลายปมและชนทั้งหลาย ดังนี้) [๖๓] คนพาลที่รู้ตัวว่าเป็นคนพาล ยังเป็นบัณฑิตได้บ้าง แต่คนพาลที่สำคัญตนว่าเป็นบัณฑิต นั่นแหละ เรียกว่า คนพาลแท้
๕. อุทายิเถรวัตถุ
เรื่องพระอุทายีเถระ
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๖๔] คนพาล แม้จะอยู่ใกล้บัณฑิตชั่วชีวิต ก็ไม่รู้แจ้งธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกง ฉะนั้น
๖. ปาเฐยยกภิกขุวัตถุ
เรื่องภิกษุชาวเมืองปาฐา
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๖๕] วิญญูชน แม้จะอยู่ใกล้บัณฑิตเพียงชั่วครู่ ก็รู้แจ้งธรรมได้ฉับพลัน เหมือนลิ้นรู้รสแกง ฉะนั้น
๗. สุปปพุทธกุฏฐิวัตถุ
เรื่องนายสุปปพุทธะผู้เป็นโรคเรื้อน
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๖๖] คนพาลผู้มีปัญญาทราม ทำตนให้เป็นดุจข้าศึก เที่ยวทำบาปกรรมที่ให้ผลเผ็ดร้อน.

วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2568

พ่อแม่รังแกฉัน : กลอนคติเตือนใจ
























พ่อแม่รังแกฉัน กลอนคติเตือนใจ

    ทำอะไร ตามใจ คือไทยแท้..........................ก็เพราะแม่ และพ่อ ส่อสั่งสอน(ผิดๆ)
กฎระเบียบ วินัย (คน)ไทยย่อหย่อน.................ตามคติ บิดร และมารดา(ทำจนเคยตัว)

    พ่อแม่คือ บุร พอาจารย์...............................ผู้หยิบยื่น พื้นฐาน การศึกษา(ครูคนแรก)
ลูกหลานจัก รักดี มีจริยา................................(เริ่มจาก)พึ่งมารดา บิดร สอนอบรม

    กิริยา มารยาท ทัศไนย................................พ่อแม่มี วิสัย(ทัศน์) ให้สั่งสม
วิจารณญาณ มานฤดี ค่านิยม...........................สติอุดม (หรือ)งมงาย ถ่ายทอดเป็น

    ความซื่อสัตย์ สุจริต นิตยา............................มีบิดา มารดร สอนให้เห็น
ความเอาจริง เอาจัง (หรือ)หวังแต่เล่น...............ล้วน อเนก เฉกเช่น บุพการี

    ปราถนา ประเทศชาติ พัฒนา........................ต้องพึ่งพา พ่อแม่ แพร่วิถี
ยังเช้าชาม เย็นชาม ทำ(งานพอเป็น)พิธี.............อย่าหมายมี ชีวิต พิชยา

    ผลประโยชน์ ส่วนตัว ต้องมาก่อน....................(มักจะมี)พ่อแม่สอน ให้เห็น เป็นสิกขา(ตัวอย่าง)
มี(หรือ)ไม่มี ศีลธรรม นำอุรา............................(เด็ก)ดูบิดร มารดา ประสาทดาล(ประสาท=ให้)

    คุณสมบัติ ทัศนีย์ มีประจำ(ตัว)........................พ่อแม่นำ ฝึกหัด ปทัสถาน
ปรับปรุงตน พ้นปลัก หรือ(โง่)ดักดาน.................พึ่งเผ่าพงศ์ วงศ์วาน สานสืบมี
  
    จะเลือกคู่ อย่าดูแล แค่ทรัพย์-สวย...................(ดู)อย่างอื่นด้วย ช่วยให้ ได้สุขี
อย่าโทษ(แต่)ลูก โทษหลาน สันดานไม่ดี............ควรโทษบุพ (พะ)การี ที่ก่อเอย

๒๑ มกราคม ๒๕๖๘