ผลงานของชายคนหนึ่งซึ่งนอกจากตามหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว ต้องเรียนรู้ศึกษาหาความรู้เอง ทั้งหลักธรรมและการประพันธ์ ชอบคิด-วิเคราะห์-สรุปบทเรียนใหม่เป็นประจำ แล้วบันทึกไว้เป็นบทกวีเพราะมิเช่นนั้นจะลืมบทเรียนเก่า คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง จึงโพสต์สู่สื่อสาธารณะ
ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2566
นี่คือประเทศไทย : กลอนสะท้อนสังคม
๏ ชีวี มีอยู่.....................................ต้องการ ความรู้ สู่หา
ใช่เพียง (เรียนจบ)ปริญญา...........(ก็)ทำท่า ว่าตน พ้นภัย
สัจจริง สิ่งแวดล้อม......................ปัญหา แห่ห้อม พร้อม(รับมือ)ไหม?
นี่คือ ประเทศไทย........................ประเทศ อะไร ก็ไม่รู้(Thailand Only)
๏ (นัก)สิทธิ มนุษยชน.....................ปกป้อง ทรชน คนชั่ว
ปล้น-ฆ่า อย่ากลัว.........................ติดคุก แต่ตัว ชั่วครู่(รออภัยโทษ,ห้ามประหาร)
ไม่มีเงิน ไม่ต้อง(ชด)ใช้.................ศาลบอก บ่ใช่ เรื่องของกู
ปัญหา ของสู(มึง).........................ไม่อยากอยู่ ก็ย้ายไป(อยู่ต่างประเทศ)
๏ ความเท่า เทียมกัน.......................เป็นเพียง สามัญ บัญญัติ
แต่ทาง ปฏิบัติ..............................สารพัด แตกต่าง ห่างให้
ชาติเชื้อ ชนชั้น.............................แบ่ง(แยก)กัน ปานฟ้า ดินไกล
ฝังจิต ฝังใจ..................................(ว่าเป็น)ประเพ ณีไทย วัฒนธรรม
๏ บุกรุก ทำลายป่า...........................ให้อ้างว่า ยากจน จะพ้นผิด
นักวิชา การสิทธิ์(มนุษยชน)............ดัดจริต กดดัน รัฐ(บาล)ค้ำ(จุน)
ยกให้ ทำกิน.................................ให้มี ที่ดิน (ได้)ยินประจำ(พรรคการเมืองหาเสียง)
(ผล)โลกร้อน ระยำ.........................(เพราะเป็น)บาปกรรม ธรรมชาติ ทำลายฯ
๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๖
วันอังคารที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2566
วันอาทิตย์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2566
สำนึกผิดชอบชั่วดี : กาพย์ฉบัง๑๖
วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566
วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2566
วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ประเทศสีเทา : กาพย์ยานี๑๑
๏ ประเทศ สีเทาๆ.......................................ถ่ายทอด(ความโง่)เขลา สู่ลูกหลาน
(จง)ทำตัว ชั่ว(ช้า)สามานย์......................อย่าต้องการ เป็นคนดี
๏ ถือหลัก การทำงาน..................................เลือกปฏิบัติการ ในหน้าที่
ผู้(ใด)เงิน อิทธพลฯลฯมี..........................(กับ)คนไม่มี (ปฏิบัติ)แตกต่างกัน
๏ อยู่เป็น* จะเย็นสุข.....................................มิท่วมทุกข์ เพราะ(ชีวิต)ผวนผัน
(ประเทศ)ชาติพัง ช่างหัวมัน.....................สิ่งสำคัญ (ต้อง)เห็นแก่ตัว(ไว้ก่อน)
๏ ทุจริต ต่อหน้าที่........................................ถ้า(ตัวเอง)ได้ดี มิใช่(ความ)ชั่ว
มีนาย(หนุนหลัง) ไม่ต้องกลัว....................ผลประโยชน์ฮั้ว** ปลอดเภทภัย
๏ (ความ)ซื่อสัตย์ สุจริต................................คือความคิด ที่เหลวไหล
(โอกาส)หนุนส่ง รีบโกงไกร......................แต่อย่าให้ จับได้(ไล่)ทัน
๏ บาปบุญ แลคุณโทษ.................................(เป็นเรื่อง)ปราศประโยชน์ โจษเพ้อฝัน
ชั่ว-ดี มิต่างกัน.........................................สิ่งสำคัญ ปัญญามี(ฉลาดแกมโกง ดีที่สุด)
๏ เอาตัว รอดให้ได้......................................หลักยิ่งใหญ่ ในยุคนี้
(เป็นคน)ตรง(เกิน)ไป (จะ)ไม่ได้ดี..............ผิดวิถี อันธพาล(ครองเมือง)
๏ (คำแก้ตัว)กล่าวโทษ กฎแห่งกรรม..............ไร้หลักธรรม นำหลักฐาน
ทำดี มิได้การ(ไม่ได้ดี)..............................ย่อมคิดคร้าน ท้อแท้เอยฯ
๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๖
*อยู่เป็น (คำอาการนาม การอยู่เป็น)
- (ภาษาปาก) รู้จักกาละเทศะ, รู้จักประจบสอพลอ, ยอมเสียเกียรติหรือศักดิ์ศรี
- (ภาษาปาก) รู้จักพลิกแพลงตามสถานการณ์(https://th.wiktionary.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99)
- (ภาษาปาก)รวมหัวหรือสมรู้ร่วมคิดกันกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง, สมยอมกันในการเสนอราคาเพื่อประโยชน์แก่ผู้ใดผู้หนึ่งให้เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา โดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างยุติธรรม
วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ต้องมีเงินให้มากๆ เป็นภาคบังคับ : กลอนสะท้อนสังคม
ต้องมีเงินให้มากๆ เป็นภาคบังคับ : กลอนสะท้อนสังคม
๏ (เมื่อ)ปัจจัย๔ มีราคา(แพงขึ้น)............................เป็นปัญหา ชีวาศรัย(ศรัย=อาศัย)
การอยู่รอด อย่างปลอดภัย............................มีเงื่อนไข ต้องใช้เงิน(มากขึ้นเรื่อยๆ)
๏ ปัญหายิ่ง สิ่งแวดล้อม(วิกฤต).............................ปัจจัยน้อม ค้อมขัดเขิน(เกิดความขาดแคลน)
ทุกชีวา ล้วนประเชิญ....................................(สถานการณ์ที่)ไม่เพลิดเพลิน เจริญใจ
๏ ประดาประดัง สังคมป่วย.....................................แก่ก่อนรวย ใครช่วยได้?
แม้รัฐบาล (ยัง)ลาญเยื่อใย............................ทางเลือกไร้ ให้พึ่งตน(รัฐบาลไม่ช่วย)
๏ การเป็นหนี้ นอกระบบ........................................คนรวยขบ(คิด) ขาดเหตุผล(ทำไปทำไม?)
ความลำบาก ของ(คน)ยากจน........................คือขาดหน ทางเลือกเดิน(เช่นไม่มีหลักทรัพย์ค้ำเงินกู้ธนาคาร)
๏ บ่(เคย)ยากไร้ ไม่รู้ดอก......................................ความช้ำชอก ใช่(เพียง)ผิวเผิน
(ส่งต่อไป)รุ่นสู่รุ่น คุกรุ่นเกิน-..........................(ยากจะ)ประเชิญหน้า (จน)กว่าจะตาย
๏ ยิ่ง(กว่านั้น)สังคม โสมมสร้าง.............................สิ่งรอบข้าง ทางฉิบหาย
(การพนัน,ยาเสพติด,สถานบันเทิงฯลฯ)
(ผู้คน)ยิ่ง(จะ)ยากจน กระวนกระวาย................สิ้นจุดหมาย เป็นสุขมี(มีความอยากมากแต่สมหวังน้อย ทำให้ทุกข์)
๏ คงชีวี (ต้อง)มีเงินใช้(จ่าย).................................คือเงื่อนไข ทุกวันนี้(มีเงินน้อยก็อยู่รอดยาก)
(ต้อง)มีมากด้วย รวยจึง(จะ)ดี.........................ตามวิถี(ชีวิต) ยุคสมัยไทย
๏ ข้าวของแพง⇄ค่าแรงเพิ่ม.................................เป็นจุดเริ่ม ปัญหาใหญ่(วนไปวนมาไม่จบ)
ด้วยความที่ ไม่มี(เงิน)ใช้(เพียงพอ).................คนยากไร้ (ยิ่งเพิ่ม)ทวีคูณเอยฯ
๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖
วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2566
วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2566
วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2566
ไม่ต้องพึ่งพาปาฏิหาริย์ : กลอนจรรโลงใจ
ไม่ต้องพึ่งพาปาฏิหาริย์ : กลอนจรรโลงใจ
๏ ดอกไม้ ใต้แสง สุรีย์ส่อง..................................ผุดผ่อง ต้องประกาย พรายหยาดฝน
อรุณรุ่ง ปรุงแต่ง แปลงพิมล............................สุธาดล พ้นพิภพ นพคุณ
๏ แม้ไร้ สายลม ประโคมเคล้า.............................(แต่)ร่มเงา พฤกษา สุขะหนุน
เย็นชื้น พื้นดิน ประทินดุลย์..............................เจือจุน หมุนเวียน เจียรจิรา(เจียร=นาน,จิรา=นาน)
๏ ธรรมชาติ ดาษดา โสภาสิ่ง...............................สัจจริง ยิ่งใหญ่ ไร้กังขา
แม้ไม่ใช่ สุมาลี มีราคา(แพง)............................แต่บุปผา ชนิดไหน (ก็งาม)ไม่ต่างกัน
๏ ความดี ที่ทำ นำประสิทธิ์..................................ชีวิต พิชยา โสภาสรรค์
ยาจก (หรือ)เศรษฐี วิริยะจรรย์...........................(ผล)เสมอกัน (จง)หมั่นเอื้อ เกื้อกรรมา
๏ เมื่อขยะ มูลฝอย (หมั่น)คอยเก็บกวาด................บ้านช่อง มองสะอาด ปราศปัญหา
โรคภัย ไคลแคล้ว แผ้วพานพา..........................อุปัทวา อันตราย มิกรายกวน(อุปัทวา=อุปัทวะ)
๏ เปรียบเสมือน รักษา ประคองจิต........................โศภิต นิตยา ทมถ้วน(ทม=ทะมะ=การข่มใจ)
อิ่มเอม เปรมปรีดิ์ มิแปรปรวน.............................มลทิน ทั้งมวล ล้วนปราศไป
๏ ก่อเกิด กุศล กมลสฤษฏ์...................................ชีวิต พิชยา อดิศัย
แคล้วคลาด อุปัทวะ นิรภัย.................................สุขกาย สบายใจ ไร้ร้อนลาญ
๏ ก้าวหน้า เจริญศรี มิขัดข้อง...............................ไม่ต้อง พึ่งพา ปาฏิหาริย์
เพราะกฎ แห่งกรรม คือธรรมบาล........................สรรพสิ่ง ทุกสถาน บงการเอยฯ
๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๖