ผลงานของชายคนหนึ่งซึ่งนอกจากตามหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว ต้องเรียนรู้ศึกษาหาความรู้เอง ทั้งหลักธรรมและการประพันธ์ ชอบคิด-วิเคราะห์-สรุปบทเรียนใหม่เป็นประจำ แล้วบันทึกไว้เป็นบทกวีเพราะมิเช่นนั้นจะลืมบทเรียนเก่า คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง จึงโพสต์สู่สื่อสาธารณะ
ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน
สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
รายจ่าย-รายได้ : กาพย์ยานี๑๑
รายจ่าย-รายได้ : กาพย์ยานี๑๑
๏ ชีวี
มีรายจ่าย............................................................เรื่องรายได้
ต้องศึกษา
วิธี
ที่ได้มา...........................................................และรักษา-สร้างเพิ่มทวี
๏ ใช้เงิน
อย่าเกินตัว......................................................ขืนเมามัว
ชั่ววิถี
กู้เงิน
เพลินเป็นหนี้.................................................มีแต่ทุก
ข(ะ)ทรมาน
๏ จ่ายใช้
ให้ประหยัด(อย่าฟุ่มเฟือย).................................จงมัธยัสถ์
เป็นวัตรฐาน
เงินเหลือ
(เก็บออม)เผื่อพบพาน................................สถานการณ์
อันจำเป็น(ต้องใช้เงินเร่งด่วน)
๏ ดูดีๆ
ที่รายได้............................................................คือเงื่อนไข
ปัจจัยเข็น
(ราย)ได้น้อย
คอยบำเพ็ญ(ประหยัด)...........................อย่าจ่ายเช่น เห็น(คนรวย)เขาทำ
๏ เงินน้อย
คอยรักษา.....................................................ช่องทางหา ลงทุนล้ำ
(จะ)ค่อยเพิ่ม
เริ่มจาก(ผลตอบแทน)ต่ำ........................จน(ผลตอบแทน)สูงค้ำ ฐานะดี
๏ อย่าเสี่ยง(ลงทุน)
เพียงเพราะว่า.....................................คำโฆษณา จะ(พา)ป่นปี้
(โดยเฉพาะ)ลงทุน
โดย(เงินจากการ)สร้างหนี้...............อย่ายินดี มิเป็นการ
๏ (ประกอบ)อาชีพ
สุจริต.................................................สร้างผลผลิต พิษฐาน
อุตสาห์
อย่าเกียจคร้าน.............................................ท้อ-รำคาญ-ห่วงสบายฯลฯ
๏ อย่าโลภ
ละโมบมาก....................................................ความลำบาก บนโลกหลาย
ถึงขั้น พิการ-ตาย.....................................................เพราะขวนขวาย
ให้ร่ำรวย*ฯ
๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติ สร้างวิกฤติภาวะโลกร้อน
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
อยากได้ดี : กลอนคติสอนใจ
อยากได้ดี : กลอนคติสอนใจ
๏ เสียง(ร้อง)นก
เป็ด(แดง)น้ำ ยามคืนค่ำ..................................บินล้ำ บ้านเรือน
กลางเดือนหนาว
อพยพ
ข้ามฟ้า มรรคายาว.............................................(หนีหนาว)ชั่วคราว
ลงใต้ ย้ายครอบครัว
๏ แต่ก่อน
มากมี สุนทรีเสนาะ.................................................ไพเราะ
เพราะหู เห็นอยู่ทั่ว
(ภายหลัง)ถูกคน
ยิงฆ่า อย่างน่ากลัว...............................แหล่งน้ำ มืดมัว
หาไม่มี(เพราะคนทำลายธรรมชาติ)
๏ นกเป็ดฯ(ที่เหลือรอด) เข็ดขยาด
จึงยาตรา..............................เสาะหา ถิ่นใหม่ โยกย้ายหนี
ธรรมชาติ
บัดซบ ประสบกลี...........................................(เพราะ)คนดี แต่พูด
ไม่หยุดพาล
๏ (เช่นการ)มาดหมาย
ได้ดี มีแค่(ความ)อยาก............................กลัวความ ลำบาก มากเกียจคร้าน
หวังความ
สมบูรณ์ พูนสราญ..........................................(แต่มี)สันดาน ผลาญสิ้น
อาจิณใจ
๏ เกื้อหนุน
คุณธรรม ต้องดำรง................................................มั่นคง ปฏิบัติ
อัชฌาศัย
ศึกษา
(หา)ความรู้ อยู่ร่ำไป............................................(พัฒนา)ความสา
มารถไซร้ ให้สำคัญ
๏ อย่ามัว มองข้าม
ความโง่เขลา.............................................(อย่ามัว)งอมือ งอเท้า เอาแต่ฝัน
ผลัดผ่อน
เวลา ณ ปัจจุบัน.............................................รอวัน พรุ่งนี้
ค่อยกรีฑา
๏ คนรวย
(มิ)ใช่เพราะ รอพึ่งดวง.............................................ปราชญ์ปวง
ไม่อาจ คอยวาสนา
ความสำเร็จ
ทั้งสิ้น (มิ)ใช่จินดา.......................................แต่(ต้อง)มี วิชา
(ความ)สามารถเพียง
๏ กุศล
หนทาง
รู้สร้างให้.......................................................(สิ่ง)หยาบช้า
สาไถย ใคร่หลีกเลี่ยง
วิทยาการ
ทันสมัย ใฝ่มองเมียง.......................................(การ)ชอบเสี่ยง มิใช่
ทางได้ดีฯ
๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
วิถีกระทง : กาพย์สุรางคนางค์๒๘
วิถีกระทง : กาพย์สุรางคนางค์๒๘
๏ ................................................คนอื่น
รื่นเริง
เพ็ญจันทร์
บันเทิง.....................เถลิง สุขสม
แต่เรา
ต้องมา...........................เจรจา คารม
เชิญชน
ชื่นชม..........................กระทง เรียงราย
๏ ................................................แม่ค้า
กระทง(น้อย)
ตั้งเจตน์
จำนง...........................ประสงค์ ค้าขาย
เทศกาล
ลอยกระทง...................คงมีคน มากมาย
ซื้อหา
กระทงหมาย....................ถวายแม่ คงคา
๏ ................................................ลงทุน
(ซื้อ)อุปกรณ์
ลูกหลาน
หมั่นสอน.....................สังวร เงินหา
ช่วยพ่อ
ช่วยแม่..........................(ที่)นับวันแต่ (จะ)แก่ชรา
ประกอบ
สัมมา...........................อาชีพ กตัญญู
๏ ................................................ห้าบาท
สิบบาท
กำไร
หมายมาด.........................แต่มิอาจ คาดรู้
ถ้าขาย
ไม่ดี..............................(หรือ)มีฝน พรั่งพรู
ขาดทุน
หนุนสู้...........................ต้องกู้ เงินตรา
๏ ................................................ต้นทุน
ชีวิต
บางคน
น้อยนิด..........................อดคิด อิดหนา
ส่วนเขา
สุขสบาย.......................เพิ่มสยาย ทรัพยา
ตั้งแต่
เกิดมา.............................(ต่างกัน)ดั่งฟ้า กับดิน
๏ ................................................คนใด
ศรัทธา
หลักธรรม
สัมมา.........................ริษยา ละสิ้น
ทุกคน
มี(เวร)กรรม.....................นำพา ชีวิน
อย่าขัดสน
จนจินต์......................ศีลธรรม ดำเนินฯ
๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
เวรกรรมกับความอยากรวย : กลอนคติเตือนใจ
เวรกรรมกับความอยากรวย : กลอนคติเตือนใจ
๏ สถานะ
ทางการเงิน.............................................เร่งรวยเกิน เลินเล่อ-สูญ
อันกระมล
อกุศลมูล......................................ฉลฉ้อพูน หนุนบรรลัย
๏ ทรัพย์คนอื่น
อย่าหื่นหา........................................ของมีค่า(ของเขา) อย่าอยากได้
ยื้อแย่งปอง
ของๆใคร....................................คือปัจจัย ให้ก่อ(เกิดกรรม)เวร
๏ คนทำบาป
ย่อมหยาบช้า.......................................(ความ)ชั่วหวน(คืน)มา
พาทุกข์เข็ญ
ประสบลำบาก
อยู่ยากเย็น..............................ปัญหาเห็น มิเว้นวาย
๏ สังขารคน
ฤาพ้นหนอ...........................................มิ(นาน)เกินรอ ก็เสื่อมสลาย
เงินโกงมา
แม้มากมาย...................................ชีวาวาย กลายมายา
๏ เหมือนน้ำใส
ไหลสู่อ่าง.........................................อยู่ไม่สร่าง(ซา) อย่างช้าๆ
(โดย)มิคะนึง ถึงเวลา.....................................ชลาศัย
ได้บริบูรณ์(ชลาศัย=บ่อน้ำ)
๏ ประกอบสัม
มาอาชีพ............................................มิเร่งรีบ(รวย)
(ความ)บีบคั้นสูญ
บ่รวยล่า ไม่อาดูร...........................................สันโดษทูน
จำรูญใจ(สันโดษ=พอใจเท่าที่หาได้-ในสิ่งที่มี)
๏ (หากินอย่าง)อุตสาหะ
และอดทน............................เก็บออมดล อย่าฉลใช้(จ่ายฟุ่มเฟือย,เล่นการพนัน,ทำผิดกฎหมายฯลฯ)
ลงทุนทาง(การเงิน)
ทุกครั้งไป.........................ให้คะนึง ถึงวิทยา(ข้อมูล,ความรู้)
๏ ทีละเล็ก
ทีละน้อย................................................เงินค่อยๆ เพิ่มภายหน้า
แม้ไม่รวย
ด้วยเงินตรา....................................ก็ดีกว่า ติดตะรางฯ(หรือถูกเขาโกง)
๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกกว่าหมื่นคนประกาศ "ภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศ"
บรรดานักวิทยาศาสตร์จาก 153 ประเทศทั่วโลก จำนวนกว่า 11,000 คน ร่วมกันลงนามสนับสนุนรายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกฉบับล่าสุด รวมทั้งออกแถลงการณ์ประกาศ "ภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศ" (Climate emergency)
เหล่านักวิทยาศาสตร์จากหลากหลายสาขาวิชาชี้ว่า มนุษยชาติจะต้องเผชิญกับความทุกข์ยากชนิดที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน และไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้ได้ หากผู้คนไม่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่สร้างก๊าซเรือนกระจก หรือละเลิกกิจกรรมที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างถอนรากถอนโคนแบบถาวร
รายงานสถานการณ์สิ่งแวดล้อมโลกฉบับดังกล่าว ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Bioscience เป็นที่มาของการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศในครั้งนี้ โดยรายงานได้รวบรวมข้อมูลการวิจัยที่ยาวนานกว่า 40 ปี ซึ่งครอบคลุมตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมที่กว้างขวางและหลากหลาย ตั้งแต่อัตราการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล, ปริมาณการบริโภคเนื้อ, อัตราการเจริญพันธุ์และการเติบโตของประชากรโลก, อัตราการแผ้วถางป่าและตัดไม้ทำลายป่า, ระดับอุณหภูมิพื้นผิวโลก อัตราการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ ไปจนถึงตัวเลขความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากความแปรปรวนของสภาพอากาศอย่างสุดขั้ว
ดร. โทมัส นิวซัม นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ของออสเตรเลีย หนึ่งในแกนนำของกลุ่มผู้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศบอกว่า "นักวิทยาศาสตร์มีความรับผิดชอบทางศีลธรรม ในแง่ที่จะต้องเป็นผู้ออกมากระตุ้นเตือนให้มนุษยชาติตระหนักถึงภัยอันใหญ่หลวง"
"จากข้อมูลที่เรามีอยู่นั้น ชัดเจนว่าโลกกำลังเผชิญกับภาวะฉุกเฉินด้านภูมิอากาศ หากมนุษย์ไม่เร่งแก้ไข มีความเป็นไปได้สูงว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะรุนแรงกว่าที่เคยพบเจอกันมาอย่างมาก เช่นบางพื้นที่ของโลกอาจไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป" ดร. นิวซัมกล่าว
รายงานฉบับนี้มีจุดประสงค์ในการนำเสนอข้อมูลที่เห็นภาพชัดเจน เพื่อให้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ และสาธารณชน ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ที่ภัยด้านสิ่งแวดล้อมกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วทุกขณะ แต่กลับถูกปล่อยปละละเลยไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจังมานานหลายสิบปี
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิทยาศาสตร์ได้ระบุในรายงานข้างต้นด้วยว่า มีมาตรการ 6 ด้านที่ผู้คนสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที เพื่อชะลอและหยุดยั้งผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
1) ด้านพลังงาน ควรใช้นโยบายอนุรักษ์แหล่งพลังงานและประหยัดพลังงานในระดับมหภาค ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หันมาใช้พลังงานทดแทนที่ยั่งยืน ยกเลิกนโยบายอุดหนุนราคาน้ำมันหรือนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงฟอสซิล คิดค่าการปล่อยคาร์บอนให้สูงพอที่ธุรกิจต่าง ๆ จะหลีกเลี่ยงการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
2) ด้านสารก่อมลพิษระยะสั้น ควรลดการใช้และปล่อยมีเทน, สารไฮโดรฟลูออโรคาร์บอน, รวมทั้งเขม่าควันต่าง ๆ เนื่องจากอาจจะช่วยลดความรุนแรงของภาวะโลกร้อนในช่วง 20-30 ปีข้างหน้าลงได้ถึง 50%
3) ด้านธรรมชาติ ควรหยุดยั้งการแผ้วถางพื้นที่ป่า อนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศเช่นป่าไม้ ทุ่งหญ้า หรือป่าโกงกาง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลก
4) ด้านอาหาร ควรบริโภคพืชผักให้มากขึ้นและลดผลิตภัณฑ์อาหารจากสัตว์ลง ซึ่งจะช่วยตัดลดการปล่อยก๊าซมีเทนและก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ รวมทั้งลดการแผ้วถางพื้นที่ป่าเพื่อเลี้ยงปศุสัตว์ด้วย
5) ด้านเศรษฐกิจ ควรยกเลิกแผนการที่พึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นหลัก เปลี่ยนทิศทางนโยบายที่มุ่งแสวงหาแต่ความมั่งคั่งและเพิ่มตัวเลขจีดีพีด้วยการทำลายทรัพยากร มาเป็นนโยบายที่คำนึงถึงความยั่งยืนของ "ชีวมณฑล" ในระยะยาวแทน
6) ด้านประชากร ควรจำกัดจำนวนประชากรโลกให้อยู่ในระดับคงที่และเหมาะสม โดยใช้วิธีการที่มีความยุติธรรมทางเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากในปัจจุบันมีประชากรเกิดใหม่เพิ่มขึ้นถึงกว่า 2 แสนคนต่อวัน
https://www.bbc.com/thai/international-50315620
๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
พระเครื่องเรื่องหลอกลวง : กาพย์ยานี๑๑
พระเครื่องเรื่องหลอกลวง : กาพย์ยานี๑๑
๏ พระเครื่อง
เรื่องลวงหลอก.................................ไม่มีดอก อภินิหาร
(เป็น)ไสยศาสตร์
อุบาทว์มาน..........................อันธพาล ลาญพุทธา
๏ พุทธคุณ
ธรรมคุณ...........................................คอยเกื้อหนุน คนศึกษา
ศีล-สมาธิ-ปัญญา.........................................ปฏิบัติ
พัฒนาไกร(ไม่ใช่มีพระเครื่องติดตัว)
๏ (พระ)เหรียญ-ผง
อย่าหลงเชื่อ...........................ยอมเป็นเหยื่อ ทรามบ้าใบ้
โง่เขลา
เศร้าหมองใจ....................................ไร้แสงสว่าง ส่องทางนำ
๏ พระเครื่อง
เฟื่องฟูเพราะ...................................คนบาปเสาะ สิ่งจุนค้ำ
หนุนเกื้อ
เหนือเวรกรรม..................................ทำบาปไว้ หวังได้ดี
๏ (พวก)ขายค้า
พระเครื่องเขา..............................กำไรเอา หลายเท่านี้
(ลง)ทุนน้อย
ร้อยทวี......................................เงินไหลปรี่ มากมีมา
๏ (พวก)โง่งม
ห่มผ้าเหลือง..................................คอยประเทือง เรื่องมุสา
ปลุกเสก
เลขยันต์พา.....................................ท่องคาถา ทาสอาคม
๏ ชวนคน
ให้ฉลเขลา..........................................(แต่ง)เรื่องมอมเมา เร่าสะสม
ชาติหน้า
(คง)จะโง่งม...................................ทุกข์ตรมตรอม กรอมจิตใจ
๏ ชวนเชิญ(คน)
เดินทางผิด.................................ทุจริต จิตสาไถย
ผลกรรม
ติดตามไป.......................................ภัยร้ายหลั่ง ประดังเอยฯ
๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
*(พระ)เหรียญโลหะ ทั่วไป ราคา 3-4 บาท/เหรียญ
พระผง ทั่วไป ราคา 1-10 บาท/ชิ้น ตามเทคนิคการผลิตและวัตถุดิบ
แต่ให้เช่า-บูชา ราคาหลัก 100-1,000,000 บาท แล้วแต่จะหลอกลวงคนซื้อได้
วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
วิธีสงบใจ : กลอนจรรโลงใจ
วิธีสงบใจ : กลอนจรรโลงใจ
๏ สายน้ำ
งามเรียบ สักแค่ไหน..............................ก็ไม่ ไร้คลื่น คือพื้นฐาน
กระแสลม
พัดผัน ย่อมบันดาล.........................ยังการ สงบนิ่ง ยิ่งยากเย็น
๏ เปรียบเสมือน
การจะ
สงบจิต............................นิ่งสนิท ในสังคม ชมยากเข็ญ
สิ่งแวด
ล้อมฤา คือประเด็น.............................เฉกเช่น อุปสรรค ขวากอุรา
๏ มวลผอง ของสวย
ของงาม...............................กระตุ้นความ กำหนัด กามตัณหา
รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส
ดาษดา.........................หลั่งมา สั่นสะเทือน เคลื่อนหทัย
๏ มากมี
ที่มา ระคายเคือง....................................สร้างเรื่อง ก่อกวน
ปรวนแปรให้
กระทบ
กระทั่ง กังวลใจ.................................(จนต้อง)อยากให้ ไม่-เป็น
เช่นเจตนา(วิภวตัณหา-ภวตัณหา)
๏ การมี
ชีวิต ต้องคิดทำ......................................กิจกรรม ห้ำหั่น ผองปัญหา(มีปัญหาชีวิต ยากที่จะสงบใจ)
บรรเทา
กิเลส เวทนา....................................ใฝ่หา สัจธรรม รู้ความจริง
๏ รู้จัก
(วิธี)อยู่รอด อย่างปลอดภัย.........................(แสวงหา)ปัจจัย ดำรงชีพ
สำคัญยิ่ง
ทัศนะ
ถูกต้อง ส้องอ้างอิง...............................ละทิ้ง สิ่งโง่เขลา เมากระมล
๏ เท่าทัน
บรรดา สถานการณ์...............................ที่พาน พบอยู่ ดูเหตุผล
อย่าเอา
มายัดใส่ หัวใจตน...............................เสมือน(อยู่)บน คนละโลก จึงโชคดี
๏ เวรกรรม
ไม่ก่อ บ่ทนทุกข์.................................เป็นสุข สบาย ไคลบัดสี
มโนธรรม
คำนึง ซึ้งชีวี....................................คือวิธี บรรจบ สงบใจฯ
๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
ปฏิบัติธรรมต้องไม่ใช่แค่ใช้คำพูด : กาพย์ยานี๑๑
ปฏิบัติธรรมต้องไม่ใช่แค่ใช้คำพูด : กาพย์ยานี๑๑
๏ เปิดเทอม
เริ่มประจญ..................................ความสับสน หนทางจร
คับขัน
มิผันผ่อน...................................อย่ารุ่มร้อน ฤาอ่อนไหว
๏ แม้มี
องค์ความรู้........................................แต่มิสู้ เอาใส่ใจ
แตกกัน
ต่างอันใด................................กับไม่รู้ ดูโง่เขลา?
๏ ศึกษา
ธรรมะส้อง......................................แค่หมั่นท่อง คล่องบรรเทา
(แต่)มินำ
ไปทำเนา..............................ความทุกข์เศร้า เขลาเคืองเข็ญ
๏ (แค่)พูดไป
ประไพปาก.............................."เพราะความอยาก
จึงยากเย็น"(ตัณหาทำให้ทุกข์)
เมื่อใจ
ไม่ละเว้น...................................อยากมี-อยากเป็น จัดเจนสถาน
๏ "กิเลส
เหตุอกุศล".....................................พูดท่องบ่น จนชำนาญ
(แต่)ราคะ
โทสะพาน.............................โมหะลาน มานลุ่มหลง
๏ รู้ชี้(สอนเขา)
มิรู้ใช้(สอนตน)........................(ย่อม)ปัญญาไร้ ไม่เที่ยงตรง
อธรรม
สิดำรง.......................................ดุจธงทิว ที่ปลิวไสว
๏ ปัญหา
(ย่อม)ประสบสู่.................................เพิ่มพรั่งพรู มิผ่อนภัย
ชีวิต
วิกฤติไกร......................................จน(กว่าจะ)ตายจาก ลำบากหนา
๏ (รู้)หลักธรรม
(จง)นำไปใช้...........................อย่ามีไว้ ใฝ่พูดจา(อวดรู้-อวดดี)
รำพึง
ถึง(สวรรค์)ชั้นฟ้า...........................แต่ทว่า
ตกนรกเอยฯ(เพราะไม่เว้นว่างทำบาป)
๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
การเชื่อใจ : กลอนเปล่า
การเชื่อใจ : กลอนเปล่า
๏
จงเชื่อ
ก็ต่อเมื่อรู้ว่า
"เป็นความจริง"
สำหรับสรรพสิ่ง
ความจริงมักเป็นสิ่งซ่อนเร้น
๏ โลกนี้มีอันตราย
มากมาย(ความ)ทุกข์ยากลำเค็ญ
ส่องดูสิรู้เห็น
คนเป็นผู้เชี่ยวชาญ
ด้านการหลอกลวง
๏
ผู้ที่เชื่ออะไรง่ายๆ
โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล
ตัดสินใจจะเชื่อไปตามกระมล
คือ
"คนโง่-งมงาย"
๏ เมื่อไม่ยึดมั่นในปัญญา
ความรู้มิสู้ขวนขวาย
เอาแต่อารมณ์
นิยมทำตามอำเภอใจ
นิยมทำตามอำเภอใจ
ชีวาย่อมจะประสบกับเรื่องเลวร้าย
๏
ประตูเปิดกว้าง
ปัญหาต่างๆย่างกราย
กลุ้มรุม
สุมความเสียหาย
ทำอันตรายให้โศกตรม
๏
คนโง่-งมงาย
คล้ายคนมืดบอด
คล้ายคนมืดบอด
เพียรพยายามอยู่รอดอย่างขื่นขม
ปรารถนาความสุข
แต่กลับทุกข์ระทม
เพราะความโง่-งมงาย
เชื่อใจคนง่าย
ไม่ใส่ใจในความจริง
๏ การเชื่อใจคนง่ายๆ
ไม่ใช่ความดี
หากแต่คือวิถี
พาชีวีปรี่อาสัญ
๏
กุศล แปลว่า ความดี , ความฉลาด
นักปราญช์ย่อมรู้เท่าทัน
บ่เชื่ออะไรง่ายๆ
ใคร่ศึกษาหาสัจธรรม์
เพื่อการรู้แจ้งเห็นจริงฯ
๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
*ความไม่ประมาท เป็นทางแห่งอมตะ
ความประมาท
เป็นทางแห่งความตาย
คนผู้ไม่ประมาทชื่อว่าย่อมไม่ตาย
คนผู้ประมาทจึงเหมือนคนตายแล้ว
คนผู้ไม่ประมาทชื่อว่าย่อมไม่ตาย
คนผู้ประมาทจึงเหมือนคนตายแล้ว
วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562
ไม่เอาถ่าน : กาพย์ยานี๑๑
ไม่เอาถ่าน : กาพย์ยานี๑๑
๏ ผู้ใหญ่
ไม่เอาถ่าน..................................คนเกียจคร้าน การศึกษา
ไม่มี
หลักวิชา...................................ใช้นำพา ชีวาครอง
๏ ทำตาม
สัญชาตญาณ...............................แลสันดาน มานเจ้าของ(ทำตามใจ)
มิตระหนก
ความบกพร่อง.....................ทำให้ต้อง ข้องโศกตรม
๏ ยินดี
มีลูกหลาน......................................สืบสันดาน พาลขื่นขม
ถ่ายทอด
ความโง่งม...........................ค่านิยม เขลา-หย่อนยาน
๏ อนาถชน
คนรุ่นใหม่.................................สืบนิสัย ไม่เอาถ่าน
แพร่หลาย
ในสาธารณ์ ........................ข้าราชการฯลฯ ลานพบเป็น
๏ เกียจคร้าน
ทำการกิจ...............................จ้องทุจริต ไม่คิดเว้น
เช้าชาม
เย็นชามเจน...........................ทำเล่นๆ รอเงินเดือน
๏ เถื่อน-ถ่อย
ด้อยพัฒนา.............................คับอุรา มิคลาเคลื่อน
เกลียดนัก
การ(ได้ยินคำ)ตักเตือน...........มิแชเชือน ชอบ(คำ)ชื่นชม
๏ ยึดติด
จิตจดจำ.......................................วัฒนธรรม ทรามสะสม
ดวงฤดี
อภิรมย์...................................ค่านิยม สังคมใย
๏ (แม้แต่)วงการ
ศาสนา..............................ก็ศรัทธา ความสาไถย
เผยแผ่
แก่กล้าไกร..............................(ความ)ไม่เอาถ่าน ทั่วบ้านเมืองฯ
๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)