ผลงานของชายคนหนึ่งซึ่งนอกจากตามหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว ต้องเรียนรู้ศึกษาหาความรู้เอง ทั้งหลักธรรมและการประพันธ์ ชอบคิด-วิเคราะห์-สรุปบทเรียนใหม่เป็นประจำ แล้วบันทึกไว้เป็นบทกวีเพราะมิเช่นนั้นจะลืมบทเรียนเก่า คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง จึงโพสต์สู่สื่อสาธารณะ
ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
Temu บุกขยี้ทั่วโลก ผู้ประกอบการไทยส่อเละ | DEEP Talk
วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
โลกไซร้ไร้ผู้วิเศษ : กลอนคติเตือนใจ
๏ โลกไซร้ ไม่มี ผู้วิเศษ...................................แต่มี (ผู้มี)กิเลส และตัณหา
(ความ)คดคุด ทุจริต อวิชชา..........................แน่นใน มนา โมหะชน
๏ เชิดชาติ วัฒนา อย่าคิดหวัง...........................หากยัง ฝังใจ (เชื่อเรื่อง)ไร้เหตุผล
(ผู้)โง่เขลา เบาปัญญา อย่าหมายตน..............(จะ)หลุดพ้น (ความ)จนยาก ลำบากพาน
๏ บ่มี ที่ใด ในโลกหล้า......................................(ที่คน)สมมาด ปรารถนา ด้วย(วิธี)อธิษฐาน
ผู้คน พ้นทุกข์ ทรมาน...................................ด้วยการ กราบไหว้(ผู้วิเศษ)? เหลวไหล(สิ้น)ดี
๏ ห่างไกล วิสุทธิ์ พุทธศาสนา............................ความคิด อวิชชา สาระลี้(ไร้สาระ)
ขบวนการ ลวงหลอก ปอกลอกที่....................มากมี ในประเทศ สม(เพช)เวทนา
๏ สุข-ทุกข์ ผูกพัน การกระทำ.............................(คน)มิรวยร่ำ ลำบาก ยาก(จน)หนักหนา
(ส่วนมาก)เพราะไม่ ใส่ใจ ในวิทยา..................(ไม่)อุตสาหะ พยายาม กิจดำเนิน
๏ บ่นำ ความรู้ สู่ชีวี.............................................ความดี มีเพียง เคียงผิวเผิน
อบายมุข ถูกจริต จิตเพลิดเพลิน......................ความเจริญ จะได้ จากไหนมา?
๏ กุศล มนฤดี จึงวิเศษ........................................(จง)ลดละ กิเลส และตัณหา(มนฤดี=ใจดี)
(ซึ่งเป็น)บ่อเกิด ทุจริต อวิชชา.........................รักษา กรรมา(กาย-วาจา-ใจ) จึงจะเจริญ
๏ กุศล ผลบุญ สิหนุนส่ง.....................................ประสงค์ สิ่งใด ไม่ขาดเขิน
อยู่เย็น เป็นสุข ทุกวัน(คืน)เพลิน......................สรรเสริญ-ยศ-ลาภ (เอ่อล้น)ซาบทรวงเอยฯ
๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗
วันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
ไม่มีใครหลบพ้นกฎแห่งกรรม : กลอนคติธรรม
๏ อาทิตย์ อุทัย ไร้สุ้มเสียง..................................แค่เพียง ดวงตา สามารถเห็น
อากาศ ยามนอน ร้อนฤาเย็น...........................ผิว(หนัง)เป็น สัมผัส สื่อปัจจัย
๏ ใช่ว่า ตา-หู (จะ)รู้รสชาติ(อาศัยลิ้น)....................อากาศ บริสุทธิ์ วิมุตติใส
จมูก ดมกลิ่น ประพิณประไพ...........................เงื่อนไข อวัยวะ ประจัญการ(ประพิณ=ฉลาด,มีฝีมือ)
๏ นามธรรม กรรมกฎ(กฎแห่งกรรม) มิลดละ............อวัยวะ อะไร ใช้ประสาน?
ธรรมชาติ วิจิตร พิสดาร..................................(ที่)บงการ สรรพสิ่ง ยิ่งยืนยง
๏ เหตุผล กลไก ในชีวิต........................................ชะตา ลิขิต ชวนพิศวง
ปริศนา สาเหตุ เจตจำนง.................................ยังคง ซ่อนเร้น เช่นนิรันดร์
๏ จะเอา อะไร (มา)ใช้ชี้วัด?...................................(สิ่งที่เป็น)นามธรรม สัมผัส ตัดสินสรร
(ทำ)ได้แค่ เทียงเคียง เพียงประคัลภ์................ประสบการณ์ วันคืน ที่ตื่นตา
(ประคัลภ์=ความกล้า,ความสามารถ)
๏ บาป-บุญ คุณ-โทษ โปรดสังเกต..........................มีเหตุ มีผล ยลศึกษา
กฎแห่ง การกระทำ ย่อมนำพา..........................โชคชะตา ปรากฏ ชดใช้คืน
๏ (อ้างว่า)ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เป็นสิทธิ์...........................ทำอะไร ไม่ผิด คิดฝ่าฝืน
(ทำ)ชั่ว-(ทำ)ดี มีผล ดลดาษดื่น........................เลิศล้ำ (หรือ)กล้ำกลืน (เหตุผล)พื้นฐานมี
๏ เคยทำ กรรมใด ในเก่าก่อน(อดีต)........................ย่อมย้อน คืนผล บนวิถี-
กฎแห่ง เวรกรรม ตามบัญชี...............................ไม่มี ที่หลบ(ซ่อน) (ทุก)ภพชาติเอยฯ
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๗
วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2567
เว้นบาปกรรม-เพียรทำดี คือวิถีบริสุทธิ์ : กาพย์ยานี๑๑
๏ สันติ(ภาพ) ที่ไร้แร้น..................................ทรงแบบแผน โลกแก่นสาร
ความทุกข์ และทรมาน.............................เป็นพื้นฐาน (ของ)สงสารวัฏ
๏ น้ำตา (และ)ความอาลัย.............................รินหลั่งไหล (อย่าง)ไม่ติดขัด
(ความ)ขื่นขม และ(ความ)โทมนัส..............คือกิจวัตร (ของ)สัจจ์นิรันดร์
๏ วิถี แห่งธรรมชาติ......................................เผยพิพาท ดาษโศกศัลย์
(พิพาท=โต้เถียง,โต้แย้ง//ดาษ=มากมาย,มีทั่วไป)
ปกติ ของชีวัน.........................................(มักจะ)เบียดเบียนกัน ตลอดเวลา
๏ โลกนี้ มิใช่สวรรค์......................................ไร้(สิ่ง)อัศจรรย์ ชวนหรรษา
สัตว์วิถี กติกา..........................................ต้องเข่นฆ่า เพื่อหากิน(เลี้ยงชีวิต)
๏ (ความ)เมตตา ไป่ปรารมภ์...........................คตินิยม สมถวิล
อกุศล บนแผ่นดิน....................................มิเสื่อมสิ้น อจิณไตย
๏ โลกา จึงน่าเบื่อ(หน่าย)...............................โดยมิเหลือ สิ่งสงสัย(ลังเลใจ)
โลกธรรม กรรมใดๆ...................................บ่จูงให้ ใจศรัทธา
๏ หลุดพ้น วนเวียนว่าย(ตายเกิด).....................เป็นเป้าหมาย ใฝ่ปรารถนา
ยุติ (การ)เกิดชีวา......................................พ้องปรัชญา (ของ)ศาสนาพุทธ
๏ เว้น(บาป)กรรม กระทำดี.............................คือวิถี อันบริสุทธิ์
ไล่เลียง มีเพียงมนุษย์................................ที่อาจหลุด(พ้น) (วัฏ)สงสารเอยฯ
๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๗