ผลงานของชายคนหนึ่งซึ่งนอกจากตามหลักสูตรของโรงเรียนแล้ว ต้องเรียนรู้ศึกษาหาความรู้เอง ทั้งหลักธรรมและการประพันธ์ ชอบคิด-วิเคราะห์-สรุปบทเรียนใหม่เป็นประจำ แล้วบันทึกไว้เป็นบทกวีเพราะมิเช่นนั้นจะลืมบทเรียนเก่า คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับคนอื่นบ้าง จึงโพสต์สู่สื่อสาธารณะ
ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน
สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้
วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
ต้นทุนชีวิต : กลอนคติสอนใจ
ต้นทุนชีวิต : กลอนคติสอนใจ
๏ เด็กสาว ขายพวง กุญแจ...................แน่วแน่ เพื่อ(หาทุน)การ ศึกษา
ได้รับ ชีวิน ปริญญา.........................สำเร็จ ล่วงหน้า (ปริญญา)มหา'ลัย
๏ เข้าใจ ปรัชญา ชึวิต..........................รู้(จัก)คิด พิชยา คว้าไขว่(พิชยา=ชัยชนะ)
อุตส่าห์ พยายาม ทำไป....................อย่างไม่ ท้อแท้ แก่การณ์(การณ์=เหตุ, เค้า, มูล)
๏ มิมัว โทษโชค วาสนา.......................(ไม่)พึ่งพา (สิ่ง)ศักดิ์สิทธิ์ อธิษฐาน
(ไม่)ละเมิด กฎหมาย ; ใจมาร............(ไม่)อันธพาล ชิงปล้น โจรกรรมฯลฯ
๏ แม้มี รายได้ เล็กน้อย........................ต้องคอย ระวัง (มิ)ย่างถลำ
ใช้จ่าย เกินตัว กลัวระกำ....................ต้องทำ ตามเสงี่ยม เจียมตน
๏ ยึดถือ ซื่อสัตย์ สุจริต........................ไม่คิด ผิดก่อ ฉ้อฉล
มุ่งสู่ วิถี นิรมล.................................ที่คน พ้นชั่ว พัวพัน
๏ กระหาย ในความ (เจริญ)ก้าวหน้า........ปรารถนา อนาคต สด(ใส)สรร
หวังความ รุ่งเรือง เฟื่องชีวัน...............กัดฟัน งานสู้ ไม่อุทธรณ์
๏ ต้นทุน ชีวิต พิจารณา........................ทราม-ประเสริฐ เกิดมา อุทาหรณ์
ด้วยแรง แห่งกรรม(เก่า) ทำ(มา)ก่อน...จึงย้อน ผลให้ ได้รับ
๏ (จง)ทำดี มิทำ ความชั่ว.....................เกรงกลัว บาปกรรม ตาม(สนอง)สดับ
คือบุญ บารมี ที่(งาม)ระยับ.................ประทับ ตลอดไป ไม่เสื่อมเอยฯ
๒๔ กุมภาพัน์ ๒๕๖๘
วันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
แค่รักกัน นั้นยังไม่พอ : กาพย์ยานี๑๑
แค่รักกัน นั้นยังไม่พอ : กาพย์ยานี๑๑
๏ ธรรมชาติ บัญญัติให้............................สัตว์ทั้งหลาย ใฝ่ประสงค์
เนื่องเนา สืบเผ่าพงศ์............................ยั่งยืนยง คงเผ่าพันธุ์
๏ ดลใจ คิดใคร่-รัก.................................ปฏิภักดิ์ ฝักหมายมั่น
คบคู่ อยู่เคียงกัน..................................ประหนึ่งเป็นพัน ธ(ะ)สัญญา
๏ แต่โลก ปกคลุมด้วย.............................การเกิด(แก่เจ็บป่วย)ม้วย+ทวยปัญหา
(การดำรงชีวิต)ต้องมี สติปัญญา..............จึงจะอยู่ สู้ท้าทาย(รับมือได้)
๏ (ดังนั้น)ก่อนริ อ่านมีคู่...........................จำ(เป็น)ต้องรู้ ดูหลากหลาย(องค์ประกอบ)
(ถึงจะ)สุขสันติ์ จวบบั้นปลาย..................อย่ามักง่าย (จะ)มิได้ดี(อาจจบไม่สวย)
๏ เลือกคู่ ดูกรรมพันธุ์(ก่อน)......................สุขภาพ(กายใจ)นั้น บันดาลศรี
สติปัญญา จะต้องดี...............................(พร้อม)เผชิญโลกที่ มีอันตราย(รอบตัว)
๏ เชี่ยวชาญ การ(ทำมา)หากิน...................เลี้ยงชีวิน (จน)สิ้นจุดหมาย
(ฐานะมั่นคง)อยู่รอด อย่าวอดวาย.............เลี้ยงกัน(ครอบครัว)ได้ ไร้ขาดแคลน
๏ ส่งเสริม ความก้าวหน้า(แก่กัน)................บ่(ตั้งหน้า)ตั้งตา บ้าหวงแหน(หึงหวง)
จริงใจ ไม่ง่อนแง่น.................................(ไม่)แร้น(แค้น)คุณธรรม คู่สัมพันธ์
๏ ชีวิต (ต้อง)คิด(เอา)จริง(เอา)จัง..............(ไม่)ใช่(มี)แค่(ความ)หวัง สร้าง(เรื่อง)เพ้อฝัน
ผู้พ่าย(แพ้ชีวิต) ไร้รางวัล.........................(สรุป)แค่รักกัน นั้น(ยัง)ไม่พอฯ
๒๓ กุมภาพัน์ ๒๕๒๘
วันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
รักแบบนี้จะมีทำไม? : กาพย์ฉบัง ๑๖
รักแบบนี้จะมีทำไม? : กาพย์ฉบัง ๑๖
๏ ความรักคืออาหารใจ.............................อันขาดมิได้
ในคนล้นคิดพินิจหา
๏ เป็นเรื่องปกติธรรมดา............................เกิดทั่วโลกา
ไม่เลือกว่าอยู่ฤดูไหน
๏ หากแต่ที่เห็นเป็นไป.............................ชวนคิด ตงิดใจ(สงสัย)
มีรักทำไมให้ทุกขา?
๏ แค่สัญชาตญาณบัญชา?........................กิเลสตัณหา?
หรือค่านิยมสังคมขาน?
๏ (หรือเป็น)ชะตาลิขิตพิสดาร?..................(ให้)ต้องพบประสบพาน?
สนองปุราณการกระทำ(กรรมเก่า)
๏ (ราคะ-)ความโลภ-ร้ายตอบครอบงำ?........อุปสรรคชักนำ?
ทำลายให้รักสิ้นผลักไส
๏ (การ)ปราศจากศีลธรรมนำใจ..................ทำตามอำเภอใจ
เหลวไหลไร้มานที่มั่นคง(รักง่ายหน่ายเร็ว)
๏ รักใครก็ได้ไร้พะวง................................(เพียงเพราะ)ผลประโยชน์หลง
จำนงเหนือรักสลักเสลา
๏ ความเห็นแก่ตัวมัวเมา............................เฉโกโง่เขลา
สร้างความโศกเศร้าขึ้นข่าวเข็ญ
๏ ลางคนชอบทำเป็นเล่น(รักเล่นๆ)..............(กล้า)ก่อกรรมทำเวร
จัดเจนนิสัยสันดานฯลฯ
๏ จงมีวิจารณญาณ...................................ล่วงพ้นกลพาล
ปัญญากล้าหาญชาญชัย
๏ รักแบบนี้(จะ)มีทำไม?............................คลางแคลงแถลงไข
(ใคร)ทำได้(จะ)มีสุขทุกวันคืน ฯ
๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)