วันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

พระกรรมฐาน? : กลอนเจ็ด




พระกรรมฐาน? : กลอนเจ็ด

    พระหัว ร่อร่า อารมณ์ดี...............................มิใช่ ท่าที ของสมณะ(สมณะ=ผู้สงบ)
บ่งบอก อาการ สรรสุขะ................................เยี่ยง ส ภาวะ ปุถุชน

    (ผู้)ยินดี บริโภค โลกธรรม...........................(ย่อม)ไม่ล้ำ ล่วงเลย เกยมรรคผล
ยังคง หลงใหล ในวังวน................................ประจญ สุข-ทุก ข เวทนา

    ผู้ทำ กรรมฐาน ต้องต้านจิต..........................สมถะ สถิต เป็นอิฏฐา(สมถะ=ความสงบใจ,อิฏฐ-=ต้องใจ)
เพื่อจะ สงบใจ ใช่มารยา................................มุ่งมาด วาสนา สร้างบารมี

    (วิธี)สงบใจ ให้สละ เกลศ ลด.......................อุระ สลด คดวิถี(เกลศ=กิเลส)
ลาภ-ยศ-สักการ ไม่มั่้นมี................................หลีกลี้ ตัณหา ตั้งอารมณ์

    (การ)จับกลุ่ม สุมหัว (วิธี)ชั่วกรรมฐาน............เสมือนการ แสดง แฝงพาลสม
สร้างภาพ เพื่อมี คนนิยม................................นำสู่ อุดม ลาภสักการ

    (ใคร)ยังมี ฤดีคุด ทุจริต...............................ยังติด โลกธรรม (ยัง)ไกลกรรมฐาน
ยังชอบ ครุ่นคิด ทำ(วิถี)พิสดาร........................ยังเป็น อันธพาล ไร้ปัญญา

    คนไทย ใจบุญ สุนทานบ่ง...........................ประสงค์ เงินใส่ ให้วัดป่า
รุกราน ธรรมชาติ ตัดพนา................................สร้างวัด ดั่งว่า พระราชวัง

    พระอยู่ หรูหรา สุขสบาย..............................บวชมา สมหมาย ฤทัยหวัง
(จากครอบครัว)รากเหง้า ยากจน ทนประทัง........เดี๋ยวนี้ โด่งดัง โอหังเอยฯ

๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑

*กรรมฐานแปลว่า อุบายทางใจ มี ๒ ประการ
๑.อุบายสงบใจ เรียกว่า สมถกรรมฐาน
๒.อุบายเรืองปัญญา เรียกว่า วิปัสสนากรรมฐาน


*สพฺพตฺถ เว สปฺปุริสา วชนฺติ
น กามกามา ลปยนฺติ สนฺโต
สุเขน ผุฏฺฐา อถวา ทุกฺเขน
น อุจฺจาวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ.
สัตบุรุษทั้งหลาย ย่อมเว้นในธรรมทั้งปวงแล,
สัตบุรุษทั้งหลาย หาใช่ผู้ปรารถนากามบ่นไม่,
บัณฑิตทั้งหลาย อันสุขหรือทุกข์ถูกต้องแล้ว
ย่อมไม่แสดงอาการขึ้นลง.
From <http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=16&p=8>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น