วันพุธที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2559

เมืองนักเลง : กลอนเจ็ด

                     

เมืองนักเลง : กลอนเจ็ด

    สายลม โถมถา ราวบ้าคลั่ง......................กระทั่ง หลังคา หลุดผละหนี
ลูกเห็บ ฝนห่า กระหน่ำกลี.........................เหมือนมี ผู้ไหว้ ร่ายเวทมนต์

    ชั่วครู่ สู่ความ เงียบสงบ...........................พิภพ กลับคืน ชุ่มชื้นผล
พายุ ฤดูร้อน ช่วยผ่อนปรน.........................หรือสร้าง ภัยล้น ท้นทลาย?

    แต่คน บางคน สร้างท้นทุกข์......................ยังอยู่ เป็นสุข สนุกหมาย
ไม่เคย คิดมี ที่จะละอาย.............................ไม่ขาย ขี้หน้า เพราะหนาเกิน

    (ที่)สำคัญ มันไร้ จิตสำนึก..........................ตรองตรึก ถูก-ผิด จิตเก้อเขิน
ปกติ ริยำ ยังดำเนิน...................................เพลิดเพลิน ชีวิต ไร้ผิดมอง

    คือกมล สันดาน เหล่าบรรดา.......................อาชญา กรโหด โฉดจองหอง
ตั้งตัว ชั่วช่ำ หลงลำพอง.............................คะนอง ใจรัก ว่านักเลง

    โอ้อวด ศักดา ข้ายิ่งใหญ่............................พอใจ ระราน พาลข่มเหง
ละเมิด กฎหมาย ไร้ยำเกรง...........................ครื้นเครง เบ่งบ้า ค่านิยม

    แพร่หลาย ในประเทศ ด้อยพัฒนา.................แลข้า ราชการ สามานย์สม
ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ในสังคม................................ภิรมย์ รกเกลื่อน ป่าเถื่อนคดี

    มโนธรรม บำเพ็ญ เห็นขอบเขต....................คนน่า สมเพช-พิเศษศรี
คนเลว ระยำ-คนงามดี..................................ต่างที่ ศีลธรรม สำนึกเอยฯ

๖ เมษายน ๒๕๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น