กรงขังแห่งสังสาร : กาพย์ยานี๑๑
๏ วัยเยาว์* เคยเฝ้าเมียง..................................นกถูกเลี้ยง ในกรงขัง
ดูมี (ความ)สุขดีจัง....................................เป็นเหมือนดั่ง มิรู้ตัว
๏ (ว่า)อิสระ เสรีไร้.........................................ถึงภายใน กรงพร้อมทั่ว(อาหาร,ที่นอนฯลฯ)
เภทภัย ไม่พันพัว......................................บินเล่นหัว ครอบครัวเคียง
๏ คิดเทียบ เปรียบกับคน................................แม้อยู่บน โลกใหญ่เยี่ยง
(ท่างกลาง)จักรวาล อันกว้าง(ไกล)เพี้ยง......คนเคียงคล้าย นกในกรง(แคบๆ)
๏ เติบใหญ่** ได้ศึกษา...................................พุทธศาสนา ลดละหลง(อวิชชา)
จึงได้ เข้าใจตรง........................................การเวียนว่าย ตาย-เกิดมี
๏ เปรียบไป ไม่ต่างกรง...................................ขังเราคง (อยู่กับ)สงสาร(วัฏ)วิถี
ทุกข์โศก โรค-ไพรีฯลฯ...............................ไร้สิ้นสุด ดุจนิรันดร์
๏ คนหนอ บ่ต่างนก(ในกรง).............................ไป่ตระหนก ตระหนักหัน
(ไม่)เห็นภัย ในวัฏฏ์อัน................................ขวางกั้นอิส (สะ)ระเสรี
๏ นกอยาก อยู่ในกรง.......................................เหมือนคนหลง ไหลโลกนี้
อยากกลับ มาเกิดมี.....................................ชีวิตต่อ บ่อยากตาย
๏ คำสอน พุทธศาสนา.....................................(วัฏ)สังสารา คะนึงหมาย
หลุดพ้น (การ)วนเวียนว่าย............................(การเกิด)แก่-เจ็บ-ตาย ให้สิ้น(สุด)เอยฯ
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗
*ผู้เขียนคิดเรื่องนกในกรง ตอนมีอายุ 13 ปี
**ผู้เขียนเริ่มอ่านพระไตรปิฎก ตอนอายุ 19 ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น