วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

อย่ารอท่า"ฟ้าหลังฝน" : กลอนจรรโลงใจ



อย่ารอท่า"ฟ้าหลังฝน" : กลอนจรรโลงใจ


    ฝนหยด รดริน ดินด่ำ.........................................ชุ่มฉ่ำ น้ำนอง ลำยองศรี(ลำยอง=สวย, งาม)

เพลินเมียง ฟังเสียง(ฝน)ซ่า กลางราตรี..............สุขี ฤดีเห็น เย็นสบาย


    คนเขา เฝ้าคิด พิจารณา....................................ยก "ฟ้า หลังฝน" ยลสลาย

งดงาม ล้ำเลิศ ช่างเพริศพราย..........................(น่า)เสียดาย ไม่ถนัด สัจธรรม

 

    นภา ทุกนาที บริสุทธิ์........................................วิมุต หลุดพ้น มลทินล้ำ(วิมุต=หลุดพ้น)

พิไล ใสสด จรดเช้า-ค่ำ....................................เมฆคล้ำ น้ำฝน พิมลมอง


    ไม่ว่า มนุษย์ ผุดความคิด...................................สร้างผล มลพิษ วิกฤตสนอง

ก็หา ทำให้ (ฟ้า)ไร้เรืองรอง..............................ภัยผอง ต้องสู่ พสุธา


    ชีวี ที่ชี้นำ ธรรมกุศล.........................................(ยาม)ขัดข้อง ต้องผจญ ท้นปัญหา

จิตใจ ไม่ติดขัด ความศรัทธา............................เสมือนฟ้า คราฝน ระคนครอง


    ยังคง ยงสู้ เหล่าอุปสรรค..................................เบา-หนัก ผลักดัน กรรม์ถูกต้อง(สัมมากัมมันตะ)

มิหยุด สุจริต จิตครรลอง..................................(มิ)ขาดตก บกพร่อง คล่องจรรยา

 

    (เมื่อ)เข้าใจ ตัวบท กฎแห่งกรรม........................ไม่ทำ ให้ท้อ ต่อปัญหา

ไม่เกิด เศร้าโศก กับโชคชะตา..........................เชื่อว่า ทำดี ย่อมได้ดี(ทำชั่วย่อมได้ชั่ว)


    อย่ามัว รอท่า "ฟ้าหลังฝน"...............................แยบยล หนทาง สว่างศรี

เมฆฝน ล้นฟ้า (ดุจ)มโหรี..................................สวยดี วิเศษ เพียงเพชรเอยฯ


๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๖

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น