วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

กรรมดีเป็นที่พึ่ง : กลอนจรรโลงใจ



กรรมดีเป็นที่พึ่ง : กลอนจรรโลงใจ


    เมื่อเหมันต์ ผันผิน เริ่มสิ้นสุด..........................แดดแผดผุด ดุจเผา ร้อนเร่าหลาย

แมวทยอย คอยหาที่ ที่เย็นสบาย.................นอนเหยียดกาย ไม่สน หนทาง(คน)เดิน


    ไม่ต้องรู้ อุดมการณ์ อันสูงส่ง...........................ไร้ประสงค์ หลงคำ ล้ำสรรเสริญ

ไม่กระเดียด เกียรติยศ ปรากฏเกิน...............ก็เพลิดเพลิน เจริญจิต สมพิศปอง(ได้)

 

    โลกธรรม จำนง จงสยบ..................................ความสงบ(ใจ) สบง่าย ไร้เศร้าหมอง

มายาคติ มิปรารถนา จะตรึกตรอง................ท่วงทำนอง ชีวิต วิจิตรดัง


    วัน-เวลา ราวระงับ หยุดกับที่............................เมื่อหัวใจ ไม่มี สิ่งที่หวัง(ให้เป็น-ไม่เป็น)

หมดพันผูก ทุกอย่างที่ ไม่จีรัง.....................อนิจจัง สังขาร การแต่งปรุง(สิ่งปรุงแต่ง)

 

    บ่หลงเหลือ เยื่อใย ในพิภพ............................(การ)ครองชีวิต คิดขบ ลบ(ความ)ยากยุ่ง

กุศลธรรม กรรมา เที่ยงผดุง.........................(คือ)สิ่งจรุง จูงฤดี ให้อภิรมย์

 

    ความตั้งใจ ใคร่ทำดี เป็นที่หนึ่ง.......................คอยคำนึง ถึงความรู้ บรรลุสม

พยายาม ทำดี คตินิยม................................ช่วยชื่นชม โสมนัส วัฒนา-

 

    ต่อชีวี ที่ประจัญ วันๆไป..................................แม้(มี)อุปสรรค มากมาย หลายปัญหา

พลาด-ขัดสน ผลสำเร็จ ผิดเจตนา................เมื่อเข้าใจ ในสัจจา ชะตากรรม

  

    ก็ไม่ต้อง ข้องใจ ในชีวิต..................................ไม่ครุ่นคิด อิดหนา อุระถลำ

(ไม่)เจ็บปวดร้าว เศร้าโศก อกระกำ...............ฤาชอกช้ำ กำสรวล รวนฤทัย


    ผู้น้อมนำ กรรมดี เป็นที่พึ่ง................................ย่อมเข้าถึง ซึ่งผลดี ที่ผ่องใส

มุ่งมั่นทำ กรรมดี ฤดีไกร...............................ย่อมสมใจ ในสิ่งจ้อง ต้องการเอย

 

๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น