วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

เลียบเลาะโลกุตตระ : กลอนจรรโลงใจ









เลียบเลาะโลกุตตระ : กลอนจรรโลงใจ

    บรรยากาศ เย็นชื้น คืนฟ้าหม่น........................หลังหลากฝน หล่นริน จนสิ้นสาย
ความวิเวก เสกสรรค์ พรรณราย..........................ณ ภายใต้ ราษตรี ที่เอกา(ราษตรี=ราตรี)

    เมื่อชีวิน ไม่ดิ้นรน จนเกินเหตุ..........................กองกิเลส เบาบาง รางตัณหา
ไม่หลงตัว หลงตน ล้นอัตตา..............................ไม่ถือมั่น บรรดา โลกียธรรม

    ความสงบ สบสันติ์ รางวัลสฤษฏ์.......................ดุจรัถยา อมฤต พิสิฐล้ำ(รัถยา=ทางเดิน,พิสิฐ=วิเศษ)
ขณะซึ่่ง คะนึงไคล ไร้ถ้อยคำ.............................เสียงสัทธรรม กำธร สะท้อนฤดี

    ความเย็นรื่น ชื่นไล้ ใจกายสงบ........................ความคิดขบ พบพาน สราญวิถี
ความครื้นเครง ทั้งหลาย เมื่อไม่มี.......................จิตมั่นคง ทรงศรี วิภัสสรา

    โลกุตตระ จะไสว ในเฉพาะ.............................ผู้ไม่เกาะ กิเลส เฉทตัณหา
ใจซื่อตรง คงสัตย์ สุทัศนา................................ไม่กลิ้งกลอก หลอกกล้า วาทะลวง

    ยัง(อยาก)กินหรู อยู่ดี (มั่ง)มีฐานะ....................ตะกลามตะกละ ทรัพย์ใคร่ ใฝ่แหนหวง
ยังเบียดเบียน ผู้อื่น ระรื่นทรวง...........................ยังห่างห้วง โลกุตตระ พยายาม

    เพียรสวดมนต์ บ่นว่า คาถา มคธ......................แต่หฤทัย ไม่ลด คดคิดข้าม
เอาหลักธรรม คำอ้าง มาสร้างความ....................น่าเลื่อมใส แต่ใจทราม ก็ตามที

    หาเฉียดก้าว เข้าไป ใกล้ภาวะ.........................โลกุตตระ ทัศไนย ไทวิถี
(ยัง)อยู่ท่ามกลาง ระหว่างสัตว์ กาจราคี...............โลกโลกีย์ พิลาป อาบเอื้อนเอยฯ(พิลาป=ร่ำไรรำพัน)

๓๐ เมษายน ๒๕๖๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น