วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วิมุตติสมัย : กลอนเจ็ด



วิมุตติสมัย : กลอนเจ็ด

๏   ฝนริน ยินร่ำ แทรกความสงัด........................สัมผัส รัชนี วิเวกไหว
ผสาน เสียงหรีด หริ่งเรไร.............................กลิ่นไอ เย็นชื้น รื้นฤดี

๏   ปลดเปลื้อง ปมทุกข์ มิซุกอก.......................หยุดยก ปริเยศ เลศสุขี(ปริเยศ=ที่รัก)
จิตร้าง ว่างเปล่า ราวไม่มี..............................กายี มิยล กลอัตตา

๏   ปิดการ ปรุงแต่ง แปลงกิเลส........................ปฏิเสธ สารพัน ปวงตัณหา
รู้สึก หลุดพ้น ล้นพันธนา...............................อิสรา ปริสุทธิ์ ดุษณี

๏   ไม่เห็น แก่ตัว=เปิดหัวใจ.............................ก้าวไป ใกล้สัจจ์ มนัสศรี
ซาบซึ้ง ถึงผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี.............................รัศมี ศีลธรรม ผ่องอำไพ

๏    เมื่อมิ ระคน มลทินโลกย์............................ย่อมมิ วิโยค เศร้าโศกไส
โลกีย์ วิจิตร ไม่ติดใจ...................................ย่อมไร้ โซ่ล่าม ความผูกพัน

๏   เข้าถึง วิถี วิมุตติธรรม.................................พ้นความ ลำเค็ญ เป็นสุขสันติ์
สยบสิ้น ดิ้นรน จลชีวัน.................................จิตพลัน สงบ ประสบพี

๏   ไร้การ รันทด และอดอยาก..........................ลำบาก หลากหาย ไคลบัดสี
ดวงแด แน่-นิ่ง ยิ่งสุรีย์..................................สุกสี แสงผ่อง ส่องพิไล

๏   ฝนคง ลงริน ไร้สิ้นสุด.................................แต่งจิต ติดจุด วิมุตติสมัย
พ้นความ ทุกข์ท้อ ทรมานใจ..........................พ้นความ กระหาย ใดๆเอยฯ

๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น