วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ดับไฟ : กลอนเจ็ด



ดับไฟ : กลอนเจ็ด

    ฝนนำ ความเย็น เค้นจากฟ้า................พรมผืน พสุธา วนาสัณฑ์
ค่อยหล่น ค่อยริน ยินเสียงครัน.................เสมือนเสียง สวรรค์ วิมานแมน

    ความร้อน ผ่อนคลาย มลายสิ้น.............ธรณิน ชื่นฉ่ำ ล้ำเลอแสน
เปลวไฟ(ป่า) ปลายดับ ลับทั่วแดน............แว่นแคว้น แทนที่ เปรมปรีดา

    แต่ฤดี (ยัง)มีไฟ ลุกไหม้อยู่..................พรั่งพรู กิเลส แลตัณหา
ไฟแห่ง มลทิน จลจินดา..........................ริษยา อาฆาต อนาถครอง

    น้ำธรรม นำทา หทัยดับ........................ไฟสรรพ อัประมาณ ศานติสนอง
ชุ่มเย็น เป็นไป ดั่งใจปอง..........................เลิศล้ำ ทำนอง ทองนที

    จิตใส ใจเย็น เป็นสุคติ..........................สุขศานติ์ บานผลิ วิเศษศรี
ดื่มด่ำ อำไพ ไล้ฤดี..................................ชีวี สิสงบ ประสบงาม

    ดับ อ วิชชา มิจฉาทิฏฐิ..........................บาปกรรม ดำริ ตริเกรงขาม
ศีลธรรม สัมมา พยายาม............................ก้าวข้าม กรรมเวร เกณฑ์วัฏฏา

    จะได้ ไม่ต้อง มาข้องกับ.........................รองรับ สารพัน เภทปัญหา
ร้อนเร่า เศร้าโศก เพราะโชคชะตา................ย้อนมา ย่ำยี ชีวาลัย

    จะได้ อยู่เย็น อย่างเป็นสุข.......................สิ้นทุกข์ ทรมาน สันทานไส(สันทาน=ความผูกพัน)
มิต้อง เกิด-แก่ แลดับไฟ.............................เจ็บไข้ ตายขาด สมมาดเอยฯ

๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น