วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โลกศิวิไลส์ : กลอนเจ็ด



โลกศิวิไลส์ : กลอนเจ็ด

    ฟ้าแลบ แปลบปราย ในความมืด..................ลมเช่น เย็นชืด ยึดเวหา
พัดป่วน ผวนปั่น ดันเมฆา...............................หอบฝน หล่นมา ให้หล้าเริง

    สำเนียง เสียงซ้อง ของกบเขียด..................แทรกเสียด แข่งขัน กันยุ่งเหยิง
เสียงฝน ฟ้าก้อง ฟ้องบันเทิง...........................สะคราญ สัณห์เบิ่ง เถกิงไกร

    ป่าที่ เปียกชื้น ฟื้นชีวิต...............................มองความ มืดมิด วิจิตรศรัย
(ความ)อุดม สมบูรณ์ สุนทรไท.........................ทำให้ สมมาด ไม่ขาดแคลน

    หาก(แต่)ความ คิดแต่ เห็นแก่ตัว..................กลับกลั้ว เกลือกให้ ได้ยากแค้น
จิตคด จดจ่อ ก่อทุกข์แทน...............................สุขแสน เสื่อมสิ้น แผ่นดินทราม

    เอาแต่ ตัว(เอง)รอด เป็นยอดดี.....................คนเชื่อ เช่นนี้ มีมากหลาม
(ส่วน)คนเสีย สละ พยายาม.............................ใจงาม ความดี (มี)สักกี่คน ?

    หากยัง ยกย่อง เงินทองยศ..........................ศักดา ปรากฏ แม้โฉดฉล
ละ(เลย)ธรรม ความดี นิรมล.............................(จะ)ส่งผล สังคม อุดมพาล

    แต่ถ้า ยกย่อง ครรลองธรรม..........................ไม่พร่ำ นำพา ยศถาฐาน
เงินทอง มองข้าม เหมือนรำคาญ........................ชั่วช้า สามานย์ คนจัญไร

    สังคม (จะ)สมปอง ส้องน่าอยู่........................ทุกผู้ ทุกนาม ทำเลื่อมใส
ความแร้น แคลนขาด คงปราศไป........................สู่ยุค สมัย ศิวิไลส์เอย ฯ

๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น