วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

มองไปข้างหน้า มองกลับมาข้างหลัง : กลอนเปล่า



มองไปข้างหน้า มองกลับมาข้างหลัง : กลอนเปล่า

    ปิดไฟในห้อง
จับจ้องมองความมืดมน อนธการ์แห่งราตรี
พินิจพิจารณ์ ถึงการกระทำใดๆในวันนี้
อุปสรรคปัญหาประดามี
เป็นปกติวิถี ที่ยากจะตั้งความปรารถนา
ว่าอย่าได้มีเลย...

    พยายามทำอะไรให้ดีที่สุด
อุตสาหะตามกำลังความสามารถ นะอัตตาเอ๋ย...
มีบ้าง บางทีที่อาจจะขาดๆเกินๆ
ข้อบกพร่องที่ตรองเห็น...มิควรทำเป็นเฉยเมย

    แม้ทำให้ใครเดือดร้อน
ไม่นิ่งนอน วิงวอนขอการอภัยด้วยใจเปิดเผย
คนที่ไม่ทำผิด
คงมีแค่คนที่ไม่ทำอะไรเลย
แต่อาจเอื้อนเอ่ย
ว่าการที่มิทำอะไรเลย...ก็เป็นความผิด

    สถานะ-บทบาท-หน้าที่
มีอยู่ คงอยู่ คู่ทุกชีวิต
ก่อนจะทำอะไรพึงควรใคร่คิด
ป้องกันการพลาดผิด
จะได้ไม่ต้องมาอิดหนาระอาใจ

    บางครั้ง
ความผิดพลั้งอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่บางครั้ง เป็นเรื่องผิดศีลธรรมได้
ยังให้เกิดผลกรรมตามสนอง

    จึงไม่อาจละเลย
ความคุ้นเคยกับการกระทำโดยอ้างอิงศีลธรรม์ครรลอง
เพราะการทำตามดวงใจปอง
มักทำให้เกิดข้อบกพร่อง...ที่มิพึงต้องการ

    มองไปข้างหน้า...
แล้วอย่าต้องมาเสียใจไห้โศกศัลย์
เพราะความลำบากยากลำเค็ญ
เฉกเช่นเดียวกับโดนลงทัณฑ์
จากการที่วันนี้ดื้อรั้น
ทำผิดศีลธรรม์ฝืนจรรยา

    ความทรงจำ...
คือสมบัติอันล้ำค่าของชีวิต
แม้แต่ความที่เคยพลาดผิด
ที่คนมักคิดอยากจะลืมเลือน เสมือนไม่เคยมีมา...ก็หาควรไม่

    ความผิดพลาด...
สามารถใช้เป็นบทเรียน
และเปลี่ยนเป็นความรู้สู่การแก้ไข 
ก่อให้เกิดการพัฒนา
จึงนับว่ามีคุณค่า...อย่าคิดละเลยไป

    แม้ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร
แต่สิ่งสำคัญคือวันนี้ไซร้ ต้องทำให้ดีที่สุด
เพื่ออย่างน้อยในวันข้างหน้า
เมื่อหวนมองกลับมา
อย่าได้ต้องรู้สึกเสียดาย...เสียใจ
ที่ไม่ทำความดีอะไร...
ให้เป็นจริงเป็นจัง ฯ

๖ เมษายน ๒๕๕๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น