วันจันทร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557

ครรลองครองรัก : กลอนเปล่า



ครรลองครองรัก : กลอนเปล่า

    ดวงฤดีอันมีศีลธรรมค้ำจุน
ย่อมหยุดวารเวียนหมุน
มิวุ่นวายไปตามกระแสธารของความมารยาสาไถย

    ธรรมะเมื่อปกเกล้า
ประดุจดั่งเสาวนีย์แห่งเทวีผู้ปรีชาชัย
ควบคุมจิตติดตามใจ
มิให้หลงใหลไปสู่ลู่ทางสร้างมลทิน

    เมื่อดวงใจสุจริต ความคิดสุทธิ์สะอาด
ย่อมเกิดกุศลกรรม-สัมมาวาท
ปรากฏปานปริมาส (ปริมาส=พระจันทร์เต็มดวง)
งดงามไร้ทรามสิ้น

    ความละอาย-สะดุ้งกลัวต่อบาป
ทาบทา หฤทัย เปรียบได้ดั่งอาภาแห่งสุรทิน
นำพาชีวิน
โบยบินพ้นปลักตมโสมมมี

    ความพรั่งพรูของความรู้สึก " รัก "
มิใช่สักแต่ว่าต้องตาใคร ก็ดำเนินไปไร้รอรี
การตระหนักคะนึง ถึงสถานะ-บทบาท-หน้าที่
สำนึกตรึกตรองในครรลองของความผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี
เป็นวิถีที่ต้องพิจารณา
มิยอมให้อุราคล้อยตามอารมณ์ตะบมไป

    ความอดทน-สะกดกลั้น-ข่มจิต
สร้างสัมฤทธิ์แห่งฤดีให้มิอ่อนไหว
การรู้จักสังเกต-หาข้อมูล-วิเคราะห์
ก็คือเวทมนตร์อันทำให้รู้จักบุคคล
คุณลักษณะ-ทัศนคติ-นิสัย-จิตใจฯลฯของใครต่อใคร
แล้วจดจำไว้เพื่อใช้ ให้เกิดประโยชน์ต่อความสัมพันธ์

    เมื่อชีวิตก้าวผ่านไปถึงซึ่งความพร้อม
แวดล้อมวัย-ฐานะ-ความรู้-ความสามารถและคุณสมบัติอันจำเป็น
จึงค่อยเลือกเฟ้นที่จะสมัครสมาน
ประสานสัมพันธ์กับผู้หนึ่งผู้ใด ที่มีข้อมูลอยู่แล้วในใจ
ว่ามิไร้คุณสมบัติ-ความพร้อมเฉกเช่นกัน
อย่างสร้างสรรค์ ค่อยเป็นค่อยไปไม่ผลีผลาม

    ความรู้-ทัศนคติ-ค่านิยมที่ถูกต้อง
จะเป็นปราการป้องกันความผิดพลาด
ความไม่ประมาท ประหนึ่งศาสตรา
กำจัดความปราชัย
ช่วยมิให้พ่ายแพ้แก่อุปสรรคของความรัก

    ไม่ใช่เพื่อความมัวเมา
ไม่ใช่เพราะความโง่เขลา
ไม่เอาตัณหา-ราคะเป็นที่ตั้ง
ไม่ดันทุรัง ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นวิถีที่ไม่ถูกต้องไม่ชอบธรรม
คือครรลองครองรัก
ที่ต้องตระหนักและภักดี
เพื่อการบรรลุสุขีแห่งชีวันนิรันดร ฯ


๑๐ มีนาคม ๒๕๕๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น