วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

พายุ<=> นารี : กลอนไม่มีสาระ



พายุ<=> นารี : กลอนไม่มีสาระ
(แต่งตามที่คุยสนุกๆ ขำๆกับเพื่อน ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความเป็นจริงแต่อย่างใด)

     หลายปีที่ คลาดคลา ไร้พายุ..............แต่ล่วงลุ ปีนี้ ลูกที่สาม
ไต้ฝุ่นเคลื่อน เข้ามา " นารี " นาม..........คงจะงาม ล้ำเลิศ เชิดนารี

    ใครหนอช่าง ตั้งชื่อ หรืออคติ ?..........พายุสิ มีอะไร คล้ายอิตถี ?
สังเกตการณ์ บรรดา ดรุณี.....................ดูเรียบร้อย ด้อยมี นิรภัย

    หากพินิจ พิจารณา อารมณ์หญิง........ช่างเป็นสิ่ง ชวนพิศวง อย่าสงสัย
เหมือนลมเพ ลมพัด อัศจรรย์ใจ.............ปกติให้ ได้รื่น ชื่นภิรมย์

    แต่คราใด ไม่ทำ ตามใจประสงค์...........ขอท่านจง รู้ว่า " พายุ " สม
สตรีงอน โกรธา พาระทม......................สักแต่ว่า ระบายอารมณ์ วิกรมลาญ

    สติขาด ปราศไร้ ใช้เหตุ-ผล...............กลับเปลี่ยนเป็น คนละคน ล้นล้างผลาญ
ไม่เกรงใคร ใจกล้า ประจัญการ...............พละกำลัง มหาศาล ปานแรงลม

    ขืนไปขวาง ไปขัด ตระบัดเจตน์..........เธอเทวษ ร่ำไห้ กลายขื่นขม
น้ำตาหลั่ง ดั่งว่า น้ำป่าจม......................พัดถล่ม โลกา อุทกภัย

    เพราะฉะนี้ เมธีท่าน บุราณปราชญ์.......จึงประสาท คำสอน บัญชรไว้(ประสาท=โปรดให้)
กิจการ ในบ้านเรือน อย่าเคลื่อนไคล........" นารี "ยก ย่องเป็นใหญ่ อย่าไปคาน

    ชายจึงมัก ถูกครหา ว่า " กลัวเมีย "......ใจระเหี่ย จนปัญญา น่าสงสาร
เมื่อนารี มีฤทธิ์ กฤดาการ.......................ควรคิดอ่าน ขนานคู่ " พายุ " เอย ฯ(กฤดาการ=ที่ทำไว้)

๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๖

(ประเทศเกาหลีใต้ เป็นผู้เสนอชื่อ " นารี " แปลว่า ดอกลิลลี่
แต่ที่นี้ นำมาล้อกับคำที่แปลว่า ผู้หญิง ในภาษาไทย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น