วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ไม่ดิ้นรน จนเดือดร้อน : กลอนเปล่า




ไม่ดิ้นรน จนเดือดร้อน : กลอนเปล่า

เมื่อแสงแรกแห่งรังสิมันตุ์แทรกผ่านนภา
บรรดาสกุณีดุริยางค์ต่างเริ่มบรรเลงเพลงผสาน
อำลาอาลัยรัตติกาลอันสงบนิ่ง
แลลิงโลดรับทิวาสมัยในบัดดล

คลายอ้อมกอดของนิทรา
ชีวากลับมามีสติสัมปชัญญะอีกหน
ขับเคลื่อนกลไกชักใยสังขาร
ที่เผาผลาญพลังงานเพื่อการอยู่รอด
ตามวัฏจักรของการเปลี่ยนแปลง
ที่ไม่เคยแปลงเปลี่ยนไปตามกาลเวลา

ความเป็นไปในไพรสณฑ์เปี่ยมล้นด้วยความสงบ
เพราะสรรพชีวีต่างปรารภ-ต่างแสวงหา
เพียงเพื่อค้ำจุนรักษาชีวาแลสังขาร
เมื่อให้ได้อาหาร-ที่อยู่อาศัย แลรักษาสายสัมพันธ์
การดิ้นรนใดๆพลันยุติ
เพื่อให้มีเวลาเสพสันทนาการ
แลผ่อนคลาย

ธำรงครรลองของวิถีแห่งความพึงใจไม่ละโมบ
จึงคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ
ที่ยืนหยัดอยู่ได้
ด้วยอาการสงบ สมดุล แลงดงาม

การไม่ตะกละตะกลาม ใคร่ชั่วมัวเมา
สะท้อนซึ่งจินตนาการ อันไม่โง่เขลา
ไม่เอาแต่ใจ ไม่เห็นแก่ตัว หัวใจทราม
ตามโลกียวิสัย ในสัตว์บางหมู่บางชนิด
ที่คิดแส่หาความมั่งคั่ง เกียรติยศ ชื่อเสียง
เพียงประหนึ่งพึงใจในมายาบรรดามี

โดยมิต้องมีสมองอันมีประสิทธิภาพ
ชีวิตในพงไพร กลับพิสุทธิ์ สดใส ไร้ราคี
โดยมิต้องมีพัฒนาการอันซับซ้อนเกินไกล
วิถีแห่งป่าดงคงเย็นเป็นสุขใส
สงบระงับดับความเร่าร้อนมิให้ย้อนคืนตน
ด้วยเพราะ " ไม่ดิ้นรน จนเดือดร้อน " นั่นเอง ฯ


๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น