วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2567

ความรักและความผูกพัน : กลอนรัก

                                          นกหงส์หยกที่ตายเป็นนกตัวผู้
                                    คนเคยเลี้ยงจะรู้ว่าต้องหานก(ตัวผู้)ตัวใหม่มาเลี้ยงเป็นคู่
                                               นกตัวเมียก็จะกลับมามีความสุขอีกครั้ง 
                           นกส่วนใหญ่จะครองคู่กันไปจนกว่าจะตายจากกัน จึงหาคู่ครองใหม่

                                         กรรณิการ์เป็นไม้ที่มีกลิ่นหอมแรง โดยจะบานตอนกลางคืน 
                                           ออกดอกตลอดปี นอกจากจะเป็นไม้ที่หอมแล้ว กรรณิการ์ยังเป็นสมุนไพรอีกด้วย 
                                                     และฐานรองดอกก็สามารถนำมาทำสีย้อมผ้าและสีทำขนมได้ด้วย










ความรักและความผูกพัน กลอนรัก

    ดวงหทัย(บริสุทธิ์) ให้กำเนิด เกิดความรัก.............ที่น้อยนัก จักแคลง สร้างแรงขืน
                                                                          (แคลง = ระแวง, สงสัย, กินแหนง)
รักดั่งช่อ กรรณิการ์ เพลา(กลาง)คืน......................หอมรมย์รื่น ชื่นฤทัย ไร้ราคี

    ความรัก(และ)ความ ผูกพัน เคียงกันอยู่................เกิด(พร้อมกัน)ประดัง พรั่งพรู เพียงสุขี
เปรียบเสมือน เดือนคู่ดาว คราวรัชนี......................โดยไม่มี เมฆา มากีดกัน

    รัก(คนอื่น)จะไม่ ให้โทษ โฉดฉลฉ้อ....................นอกจากก่อ การเมตตา สมานฉันท์
(ต่างจาก)รักที่ไพล่ ให้โทษ ข่าวโจษจัน.................คือรักอัน ซ่อนเร้น (ความ)เห็นแก่ตัว(รักตัวเอง)
(ไพล่=เอี้ยว,หลบไป,หลีกไป; แทนที่จะเป็นอย่างนี้กลับเป็นอีกอย่างหนึ่ง)

    "รักคือสิ่ง สวยงาม" เป็นความหมาย....................ของความรัก ที่ละลาย คลาย(ความ)โฉดชั่ว
รักที่พร้อม น้อม(ให้)อภัย ไม่น่ากลัว......................รักที่ยั่ว ยวนใจ (หา)ใช่รักจริง(แต่เป็นราคะ)

    รัก(แท้)ไม่ใช่ (สิ่งที่)ใครก็มี อย่างที่ชอบ-.............บอกกับเขา ราวครอบ ลอบกลอกกลิ้ง
ความฉ้อฉล คนหลาย ใคร่แอบอิง.........................นั่นเป็นสิ่ง ต้องระวัง(อย่าไว้ใจ) และตั้งใจ(แยกแยะ)

    มักเห็น(ความ)รัก ของคน ล้น(ความ)กำหนัด.........(ส่วนความ)รักของสัตว์ อัศจรรย์ล้วน ชวนหลงใหล(ในความบริสุทธิ์ใจ) 
เด่นประจักษ์ รัก(แท้)จริง แสนจริงใจ.....................(ที่)หาไม่ได้ ในคน(ที่) ล้นมารยา(คนหลอกลวง)

    "ที่ใดมี ความรัก มักมี(ความ)ทุกข์".....................มิใช่เมียง เพียงสุข (ควร)ฉุกคิดหนา
ความเกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ในโลกา............................ย่อมเคียงคลุก ทุกชีวา เป็นอนันต์
                                                                            (อนันต์=ไม่มีสิ้นสุด)

    แม้ไร้รัก จักไร้ ในความสุข(ที่เกิดจากความรัก)......แต่ก็ไร้ ซึ่งทุกข์(โศก) เป็นสุขสันติ์(สุขแบบสงบ)
ธรรมชาติ ประสาท(ความ)รัก และ(ความ)ผูกพัน.......เพียงเพื่อสัตว์ สืบเผ่าพันธุ์ (จง)เท่าทันเทอญฯ
(ประสาท=ยินดีให้, โปรดให้)

๒๖ กันยายน ๒๕๖๗

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
๘. วิสาขาสูตร

......ความโศกก็ดี ความร่ำไรก็ดี ความทุกข์ก็ดี มากมายหลาย
                          อย่างนี้มีอยู่ในโลก เพราะอาศัยสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก
                          เมื่อไม่มีสัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร
                          และความทุกข์เหล่านี้ย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้นแล ผู้ใดไม่มี
                          สัตว์หรือสังขารอันเป็นที่รักในโลกไหนๆ ผู้นั้นเป็นผู้มีความ
                          สุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ปรารถนาความไม่
                          โศก อันปราศจากกิเลสดุจธุลี ไม่พึงทำสัตว์หรือสังขาร
                          ให้เป็นที่รัก ในโลกไหนๆ ฯ

ปัญหา : กลอนคติชีวิต

























ปัญหา : กลอนคติชีวิต


    นภา ขาวโพลน เพราะฝนตก(หนัก).....................วิหค หลบหลีก ปลีกเวหา

ขับร้อง เสียงใส (หลบ)ใต้ชายคา........................เริงร่า ฤดี มิใส่ใจ


    ปัญหา (มี)ประปราย(มาก-น้อย) ในโลกนี้.............(ความ)ไม่มี ปัญหา หา(ได้)ที่ไหน?

ไม่ว่า จะกระทำ กรรมอะไร.................................ต้องได้(ประสบ) ปัญหา เป็นประจำ


    สมอง มีไว้ (แก้)ไขปัญหา..................................พากเพียร พิจารณา มิระส่ำ(ระสาย)

ความรู้ หาไว้ ให้พร้อมพร่ำ.................................น้อมนำ ไปใช้ ได้ชำนาญ


    ปัญหา อย่าสร้าง จงตั้งจิต..................................ชีวิต จะได้ ไม่(น่า)สงสาร

(ความ)สุขสงบ พบง่าย ไร้ทรมาน.......................คลาดคลา สถานการณ์ อันตราย


    หาความ รู้ไว้ ให้เต็มปรี่......................................(แต่)ความรู้ (ใน)โลกนี้ มีหลากหลาย

สุดยอด (ของ)ความรู้ อย่าดูดาย.........................คือ(รู้จัก)ใช้ ชีวิต บ่ผิด(พลาด)พาน


    อย่าเอา ปัญหา มาถม(ทับ)จิต.............................อย่าคิด (จน)กลัดกลุ้ม สุขุมผลาญ(ทำลายความสุขุม)

อย่าปล่อย ปัญหา(ไว้ให้) น่ารำคาญ....................กลัว(ปัญหา)จน ลนลาน มิชาญชัย


    หลีกเลี่ยง พาลชน (จะ)พ้นปัญหา(ได้มาก)............ไม่มี(ปัญหา) ดีกว่า มา(ตาม)แก้ไข

ถึงแก้ ปัญหา(ได้) จะภูมิใจ.................................แต่ไร้ ปัญหา (จะ)สบายฤดี


    รักษา จิตใจ ให้เป็นกุศล......................................คือหน ทางสู่ ความสุขี

กุศล ดลให้ ใช้ชีวี..............................................(แทบ)ไม่มี ปัญหา อุตส่าห์เทอญฯ


๒๔ กันยายน ๒๕๖๗

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567

ความสัมพันธ์ของคนเปราะบางดั่งแก้ว : กลอนคติเตือนใจ










ความสัมพันธ์ของคนเปราะบางดั่งแก้ว : กลอนคติเตือนใจ


    ความสัม พันธ์ของคน.....................................ยลเปราะบาง เหมือนอย่างแก้ว

ประดับดอกไม้ ให้งามแล้ว............................ใช่(ว่าจะ)คลาดแคล้ว พิลัยผัน


    สิ่งที่ มิตั้งใจ..................................................และ(สิ่งที่)ตั้งใจ ใน(แต่ละ)คืน(แต่ละ)วัน

กระทบ(กับ)แก้ว แล้วรังสรรค์(สิ่งใด?).............ฉันใดฉันนั้น ก็เหมือน(ความสัมพันธ์ของ)คน


    สัมพันธ์ ของผองเพื่อน...................................สั่นสะเทือน ได้(ควร)เตือนตน(อย่าวางใจ)

(เพื่อน)ฆ่าเพื่อน เกลื่อนถนน..........................(มีข่าว)พบเห็นจน คน(รู้สึก)เฉยๆ


    เรื่องราว ของคาวรัก.......................................เลอะเทอะนัก (จน)อยากละเลย

(ส่วน)ซ่อนเร้น เม้นเปิดเผย............................เฉลยความ เป็นคนแท้(ธาตุแท้ของคนไม่ต่างสัตว์)

(เม้น=คำกริยา  ปิดริม, พับริม, มิ้มหรือเม้ม ก็ใช้.)


    (คน)ไม่เคย รู้จักกัน........................................ยังห้ำหั่น ลาญดวงแด(ทำร้าย-ย่ำยีจิตใจ)

ไร้ผล หนทางแก้...........................................ได้แค่ดู รู้ข่าวสาร


    (ความ)โฉดชั่ว แน่นหัวใจ................................เป็นปัจจัย ในสันดาน

สายเลือด- สัญชาตญาณ................................ที่พาลชน ล้นนักหนา


    มีลูก(มีหลาน) ต้องปลูกฝัง...............................(จง)ระมัดระวัง จริยา

ใจดี มีเมตตา.................................................อย่าใจร้าย ใฝ่บัดสี


    อย่าเห็น แก่(กิเลส)ตัณหา................................(จง)เห็นคุณค่า ของความดี

(จะ)น้อมนำ ความ(สุข)โสภี.............................แด่ชีวี นิรันดรฯ


๑๑ กันยายน ๒๕๖๗