ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ลูกล้างลูกผลาญ : โคลงสี่สุภาพ



ลูกล้างลูกผลาญ : โคลงสี่สุภาพ

. สกุณาแลต่างสร้าง.....................รังศรัย(ศรัย=อาศัย)
เหล่าภุมรินบินไกล........................มธุรั้ง(มธุ=น้ำหวาน)
พฤกษาหน่อ-เมล็ดไคล..................พันธุ์แพร่
มีแต่มิหยุดยั้ง...............................ต่อสู้ชีวินฯ

. มนุษย์ยุคหินอยู่ถ้ำ......................แทนเรือน
ล่าสัตว์พิฆาตเหมือน......................สัตว์ร้าย
เก็บผลพืชผักเลือน........................ลางสลด
เห็นอนาคตคลึงคล้าย.....................หาได้แน่นอนฯ

. มัววอนธรรมชาติให้.....................ประทาน
ความลำเค็ญกันดาร........................ยากพ้น
เก็บเกี่ยวประสบการณ์.....................ประจักษ์
ปลูกผักธัญพืชล้น...........................สัตว์เลี้ยงสมบูรณ์ฯ

. รุ่นต่อรุ่นต่างสร้าง........................สรรเสริม
สืบวัฒนธรรมต่อเติม........................เพิ่มแล้
เผ่าพันธุ์มนุษย์เหิม..........................ครองปก
ทั่วโลกทุกทวีปแท้..........................ล้วนแต่หลากคนฯ

. บรรพชนอุตส่าห์สู้........................เสาะหา
เก็บทรัพย์สินเงินตรา........................ออมไว้
จากยากเข็ญเช่นยา-.........................จกสู่
อยู่ดีมีกินใช้....................................รวยล้ำดำรงฯ

. เผ่าพงศ์ลูกหลานรู้........................แต่สบาย
มุ่งมั่นความกระหาย..........................เกียจคร้าน
รักเล่นหลงอบาย-............................มุขสรรพ
จ่ายจับทรัพย์จัดจ้าน.........................ไม่รู้ค่าคุณฯ

. สูญทรัพย์บรรพชนสร้าง.................สะสม
ฐานะยากจนจม................................กลับย้อน
ทุกข์เข็ญคิดตรอมตรม.......................ตกต่ำ
ชีพระส่ำเดือดร้อน.............................เพราะน้ำมือใคร?

. มรดกบรรพชนสร้าง........................จงรักษ์
เสริมสติปัญญาฝัก.............................ใฝ่(ความ)รู้
ทรงคุณความดีมัก..............................มาดหมั่น
ทรัพย์ศฤงคารสานสู้...........................เสาะให้เพิ่มทวีฯ

๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อุทิศส่วนกุศล : กลอนเจ็ด



อุทิศส่วนกุศล : กลอนเจ็ด

    อุทิศ ส่วนกุศล ให้คนตาย................อกุศล หลากหลาย (อุทิศ)ให้ได้เหมือน?
คนตาย ได้รับ? นับลางเลือน.................ตักเตือน ตนไว้ ก่อนวายวาง

    รอรับ ส่วนบุญ สุนทานให้.................คน(ตาย)ใด ตอบกลับ ได้รับ(แล้ว)บ้าง?
มากคน มนเชื่อ ไม่เบื่อ/คลาง-...............แคลงต่าง อุทิศ อยู่นิตยา

    ยามชี วียัง เวียนสร้างบาป................ปลื้มปลาบ อกุศล มลปรารถนา
ทุจริต คิดคด จรดชรา..........................เบียดเบียน บีฑา หากังวล

    หมดอา ยุขัย ไป(เกิด)ทุคติ..............ตามวิ ถีธรรม อำนวยผล
ชดใช้ เก่ากรรม อย่างจำนน..................(หนี)ไม่พ้น กลเกณฑ์ ของเวรกรรม

    ไป่สม ปรารถนา แสนอาภัพ..............พบกับ ทุกข์เสริม คอยเติมซ้ำ
สะดม ขมขื่น แตกตื่นตรำ.....................อมพะนำ กำสลด หมดอาลัย

    ที่จะ สดับ รับส่วนบุญ......................พระคุณ สุนทาน (อุทิศ)ผ่านมาให้
คงมี แค่ฝัน บันเทิงใจ..........................จะไม่ มีวัน บันดาลจริง

    บ่อยาก ระกำ อย่าทำบาป.................เข็ดหลาบ สรรพชั่ว ทั่วทุกสิ่ง
ยังมี ชีวา อย่าประวิง............................ทอดทิ้ง ทำบุญ ศีล-สุนทาน

    ทำดี ได้ดี (ทำ)ชั่วได้ชั่ว...................จงกลัว กฎกรรม นำสังสาร
สิ่งที่ ทำแล้ว ไม่แคล้วพาน....................พรหม-มาร-เทวดา (ต่างต้อง)ประสบเอยฯ

๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ถ้าเธอต้องการ : กลอนคติสอนใจ



ถ้าเธอต้องการ : กลอนคติสอนใจ

    ถ้าเธอ  ฝันใฝ่......................หลังตาย ไปสู่ สุคติ
(พึง)ศีลธรรม ดำริ........................กำจัด อุปธิ กิเลสา
มนัส ประภัสสร............................ราญรอน มลทิน จินดา
มุ่งมั่น สัญญา..............................สะสม ปุญญา ปารมี

    อย่าพึ่ง พาพระ........................ผู้มี อาชีวะ สกปรก(หมายถึงพระ 18 มงกุฎ)
แต่งเรื่อง โกหก............................ยกตัว ล้ำเลิศ ประเสริฐศรี
ละโมบ โลภมาก...........................ชวนบริจาค หลากหลาย กรณี
เพื่อตน ล้นมี................................สุขี ชีวะ นิรามัย(นิรามัย=เป็นสุข,สบาย)

    ถ้าเธอ ปรารถนา.......................ปุญญา ปารมี ศรีสวัสดิ์
(พึง)รักดี ปฏิบัติ............................ศีลวัตร ศรัทธา อดิศัย
เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่.............................ช่วยแก้ ปัญหา สาธารณ์ไท
อบรม จิตใจ..................................ให้เจริญ=ความหมาย "ภาวนา"

    ถ้าเธอ ขัดสน............................อยากพ้น ปัญหา อุปสรรค
คนใคร่ ทายทัก..............................ชักชวน สะเดาะเคราะห์ เสาะหา
เธอจง เท่าทัน................................โทษทัณฑ์ อันธพาล มารยา
มอมเมา กล่าวกล้า..........................บูชา ไสยศาสตร์ อัศจรรย์

    จงเชื่อ ธรรมะ.............................กฎแห่ง กรรมจะ ลิขิต
วิถี ชีวิต.........................................ไร้เรื่อง ศักดิ์สิทธิ์ ฤทธิสรรค์
ทำดี ได้ดี.......................................ทำชั่ว ได้ชั่ว พัวพัน
กรรมใคร กรรมมัน............................นิรันดร์ ครรลอง ครองโลกเอยฯ

๒๙ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คน/วัตถุ : กาพย์สุรางคนางค์๒๘



คน/วัตถุ : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    ..................................พาดข่าว คนตาย
เพราะโดน ทำร้าย..................กฎหมาย ให้หน(ทาง)
ชดใช้ เป็นเงิน.......................ดำเนิน พิกล
ลดโทษ ทุรชน......................ทำร้าย=ตายฟรี?

    ......................................คนใคร่ ครองเรือน
ประเพณี มีเหมือน...................บิดเบือน บัดสี
คิดค่า สินสอด........................ถ่ายทอด ฤดี
ซื้อขาย ชีวี.............................แลกมี กิจกาม

    .......................................เงินทอง ของใช้
แวดล้อม พร้อมให้...................ชนะใจ ง่ายหลาม
วัตถุ แทน(ความ)รัก.................ตรรกะ ตะกลาม
คือความ ต่ำทราม....................ของความ คิดคน

    .......................................ชีวี มีค่า?
หรือมี มูลค่า?..........................ช่างน่า ฉงน
พฤติกรรม จำกัด......................อรรถา นฤมน(นฤมน=นฤ+มน)
อุระ อกุศล?............................สวคนธ์ สุนันท์?(สุนันท์=เป็นที่ยินดี)

    ........................................สนใจ มูลค่า
มากกว่า คุณค่า........................โลภะ กระสัน
ฤดี มิเลื่อม..............................เสื่อมสุญ คุณธรรม์
ธรรมดา สามัญ.........................ชีวัน บรรพชน

    .........................................ควรสร้าง คุณค่า
แทนตั้ง มูลค่า...........................พัฒนา กุศล
สัตธรรม บำเพ็ญ........................เห็นคน เป็นคน
พิสุทธิ์ หลุดพ้น..........................คน=วัต ถุเอยฯ

๒๘ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความปลอดภัยในชีวิต : กลอนเปล่า



ความปลอดภัยในชีวิต : กลอนเปล่า

    คบคนดี อยู่ในสถานที่ปลอดภัย และไม่ประมาท
เป็นหลักปรัชญาใหญ่ ในการดำเนินชีวา
เพื่อความปลอดภัยและผาสุก

    คนมักได้รับความเดือดร้อนจากคน
คนคือเหตุ-ผล ที่ทำให้คนเป็นทุกข์
ยิ่งกว่าสาเหตุใด ในทุกยุคทุกสมัย
สัตว์ป่าว่าดุร้าย ยังหลีกเลี่ยงที่จะย่างกรายเข้าใกล้คน
แต่กลับมีคนชั่วช้า กระจัดกระจายไปทั่วทุกสังคม

    การแบ่งแยกหน้าที่กันทำ
นำไปสู่ความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาผู้อื่น
แลอาชีพสารพัดอันดาษดื่น
คนชั่วย่อมกลมกลืน-เคล้าคละเป็นหมู่คณะกับคนดี

    จิตคนที่ยังไม่พ้นความเป็นสัตว์
ไม่กำจัดความโฉดชั่วกลั้วบัดสี
ความเห็นแก่ตน ล้นหลั่งดังธุลี
มากหรือน้อยมี ต่างไปในฤดีของแต่ละคน

    มีสถานที่ที่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัยในโลก
อันคนชั่วจะฉกฉวยโอกาส ปฏิบัติการโฉดฉล
ผู้แสวงหาความปลอดภัย พึ่งใส่ใจและระวังกมล
เลือกสถานที่อยู่ เพื่อเป็นผู้พ้น
เงื้อมมือแห่งทรชนคนสามานย์

    ความสูญเสียมากมาย
หลีกเลี่ยงได้ด้วยการไม่ประมาท
การเรียนรู้ที่จะเป็นผู้เข็ดขยาด
ต่อความผิดพลาดที่เพิ่งผ่านไปไม่กี่หน
คือพื้นฐานของชีวิต ที่พิจิตรพิลาสดล
อันปัญญาชน สนใจใฝ่พินิจพิจารณา

    การดำเนินชีวีมิใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยาก
ขึ้นอยู่กับทักษะ และใจใคร่จะมุ่งมาดปรารถนา
ตั้งมั่นเดินไปในทางที่ดี มีศรัทธา
แสวงหาความรู้ บรรลุสติปัญญา
ย่อมเป็นหลักประกันได้ว่า จะมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยฯ

๒๗ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สัตว์ร้ายในใจคน : กาพย์ฉบัง๑๖



สัตว์ร้ายในใจคน : กาพย์ฉบัง๑๖


    ในฤดีมีสัตว์สามตัว.................กลุ้มรุมสุมหัว
ให้มัวเมาเขลาประสงค์

    กำเนิดเกิดคู่เผ่าพงศ์.................ประจำดำรง
คอยบงการมานเสือกไส

    ร่วมอยู่อุกฤษฏ์ฤทธิไกร................ครอบเรียงเคียงใจ
ไปไหนก็ไปด้วยกัน

    ตัวหนึ่งชื่อกามฉันท์................หรือราคะอัน
คืนวันขันแข็งแกร่งพลา

    ตัวหนึ่งพึงเรียกโทสา.................มิใช่โกรธา(โทสะ=ความคิดประทุษร้าย)
ภาษาไทยชวนทำให้งง

    ตัวท้ายสุดยุทธยิ่งยง..................คือโมหะ=หลง
(ทั้งสาม)บงการจิตผิดชั่วหา

    คนเห็นเป็นสิ่งธรรมดา................สำคัญ(ว่าเป็น)อัตตา
มอบชีวาสนตะพาย

    ถูกจูงเหมือนวัวเหมือนควาย..................ตัณหากระหาย
จวบตายยังไม่รู้ตน

    ต่างจากพุทธศาสนิกชน.................ศึกษาธรรมจน
แยบยล(ว่าเป็น)อกุศลมูล

    พยายามกำจัดขาดสูญ.................มิให้พอกพูน
บริบูรณ์ดวงจิตอิฏฐาเอยฯ

๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันอังคารที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สำรองรัก : กลอนแปด



สำรองรัก : กลอนแปด


    เที่ยวเดินเด็ด ดอกไม้ ในทุ่งกว้าง...............สวยสล้าง ชวนจิต ชมพิสมัย
เด็ดดอกแล้ว ดอกเล่า เด็ดเข้าไป......................จนมือไม้ ไม่มี เหลือที่กำ

    ดอกไม้เป็น ช่อชู ดูงามงด...........................สีสันสด อุดม แสนคมขำ
แต่หลายรัก กักขฬะ อย่ากระทำ........................ขาดจรรยา ระยำ ใช่(ปกติ)ธรรมดา

    ไม่พบคน ที่ใช่ ไม่รีบรัก...............................มิใฝ่ภักดิ์ รักเผื่อ เหลือเลือกหา
สำรองรัก จักนำ ระกำอุรา.................................สร้างปัญหา วิกฤติ ชีวิตวัย

    คู่ไม่ดี มีแต่ แดพิฆาต..................................วิปลาส ขัดสน ท้นทุกข์ไส
คนทุจริต คิดคบ ย่อมพบภัย..............................มิถูกใจ ไม่คบ (จะ)สงบเย็น

    คนมักง่าย ใครพบ คบไว้ก่อน........................ย่อมเดือดร้อน ย้อนคืน ดาษดื่นเห็น
คบ-เลิกรา-หาใหม่ ไม่ว่างเว้น............................เหตุลำเค็ญ เฟ้นฟาด อาฆาตฟัน

    จิตเมามัว กลัวว่า จะไร้คู่...............................นำไปสู่ วิถี ที่โศกศัลย์
ความใจง่าย ใคร่กาม สานสัมพันธ์.......................พาชีวัน บรรลัย มากหลายมี

    ทุกชีวิต เกิดมา หาพร้อมคู่............................อย่าคิดสู่ โสด=ทราม=ความบัดสี
ย้อนเยาว์วัย ไร้ทุกข์ สนุกดี...............................เพราะเสรี อิสระ ประเสริฐคุณ

    รอให้พบ คนดี มีศีลสัตย์...............................ค่อยประหวัด สัมพันธ์ สรรค์รักสุนทร์
หวังพบคน ที่ใช่ อาศัยบุญ.................................ช่วยเกื้อหนุน จุนค้ำ สัมฤทธิ์เอยฯ

๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รักชาติ/หลงชาติ : กลอนคติเตือนใจ



รักชาติ/หลงชาติ : กลอนคติเตือนใจ


    "รักชาติ" ไม่ใช่ "หลงชาติ"...................อาละวาด กัดคน รนหา
รักชาติ รัฐป้อง ต้องปรีชา............................พัฒนา เจริญ เผชิญชัย

    โดยมาก มักเขลา "เมาชาติ"....................ชีวาตม์ ถนัดเลว เหลวไหล
เหมือนปอบ ชอบทำ ตามใจ.........................สิ้นไร้ เหตุผล กมลพาน

    ชาติข้า ใครก็ห้าม ตำหนิ..........................จริงแท้ แม้สิ วิตถาร
วัฒนธรรม ทรามซาก ดักดาน........................อุบาทว์การณ์ มั่นคง จำนงจินต์

    เรื่องโง่ งมงาย หลายหลาก.......................ยังอยาก รักษา สมถวิล
ทุจริต พิศวง โกงกิน....................................เคยชิน กินได้ เป็นไรมี

    โจรเกลื่อน เถื่อนถ่อย ด้อยพัฒนา...............ไม่ใช่ ปัญหา น่าบัดสี
อาชญา กรสรรพ อัปรีย์.................................ล้วนเพื่อนผอง น้องพี่ มิถือกัน

    ชาติข้า น่าอยู่ ที่สุด..................................ประดุจ รุดล่วง สรวงสวรรค์
ถึงภัย พิบัติ ตัดชีวัน......................................ระเบิด เกิดกัน ทุกวันไปฯลฯ

     เช่นนี้ ชี้ตรง "หลงชาติ"............................วิปลาส ปรัชญา สาไถย
เพลิดเพลิน เนิ่นนาน บรรลัย...........................จะไม่ มีชาติ ในสักวัน

    อะไร ไม่ดี วิปริต......................................รู้ผิด คิดแก้ แปรผัน
สิ่งดี ริรัก ษากัน...........................................ให้ยง คงกระพัน ดันเป็น

    ชื่นชู รู้จัก "รักชาติ"...................................อย่าขาด ศรัทธา มานะเห็น
สู้ความ ลำบาก ยากลำเค็ญ.............................มิทำ เป็นเล่น เช่นเด็กเอยฯ

๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ไม่ต้องลองคบหา : กลอนคติสอนใจ



ไม่ต้องลองคบหา : กลอนคติสอนใจ


    อากัป กิริยา....................ใช้ศึกษา นิสัย ใจคน
ความคิด จิตจล.......................ความสนใจ ใคร่ประสงค์
ล่วงรู้ สุขภาพ.........................คุณภาพ กิจกรรม ธำรง
คดหรือ ซื่อตรง.......................พร้อมบ่ง สติ ปัญญา

    พฤติกรรม จำเพาะ...............ใช้พิเคราะห์ คนได้ ไม่ผิด
เปิดเผย แนวคิด......................รู้จิต รู้ใจ ง่ายกว่า
ใคร่คล่อง มองคน....................เมินสนใจ หมายหน้าตา
เผ่าวงศ์ พงศา.........................ปริญญา หาแท้ แน่นอน

    ไม่ต้อง (ให้)รู้ตัว..................หากอยากรู้ ดี/ชั่ว ตัวตน
กิจเจียร เวียนวน......................แจ้งสิ่ง ที่กมล ซุกซ่อน
ปกปิด มิดไม่...........................เปิดให้ เห็นสันดาน สันดอน
ศึกษา เสียก่อน........................อย่าด่วน รีบร้อน คลุกคลี

    คบหา สมาคม......................ยึดความดี นิยม สมสั่ง
ความชั่ว ควรชัง........................ย่อมบังเกิด ประเสริฐศรี
อย่าคบ คนชั่ว...........................อย่าเกลือกกลั้ว คนอัปรีย์
คบแต่ คนดี..............................จะมี ชีวา สงบใจ

    ละปราศ บาดแผล..................ดวงแด สะอาด สฤษฏ์
วิถี ชีวิต...................................วิจิตร งามงด สดใส
ฉลาด เรียนรู้.............................เรียนอยู่อย่าง สร้างสรรค์ไป
อยู่รอด ปลอดภัย.......................สุขใจ บันเทิง เริงรมย์ฯ

๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558

บาปบุญคุณโทษ : กาพย์ยานี๑๑



บาปบุญคุณโทษ : กาพย์ยานี๑๑


    บาปกรรม โทษทำไกร....................ล้วนแต่ไคล ตกให้คน
ทุกข์ยาก ลำบากยล...........................ทนทรมาน สิ้นศานติ์ศรี

    เวรกรรม ย่อมนำมา.......................ซึ่งชีวา ทุกขามี
กรอมใจ ไห้โศกี................................กาย-ฤดี เบียนบีฑา

    บุญคุณ ที่หนุนค้ำ..........................แก่คนนำ ความปรารถนา
สมใจ สบายอุรา................................ทุกทิวา เอื้ออาทร

    ผลดี ที่ได้รับ.................................ผู้คนสรรพ สโมสร
มอบให้ ไม่อาวรณ์..............................อาชวะ และอภัย(อาชวะ=ความซื่อตรง)

    อบรม บ่มอุรา................................ฝึกภาวนา อดิศัย
สมาธิ สติไตร....................................จิตใจขัด วิปัสสนา

    ไม่ข้อง ต้องเกี่ยวคน(อื่น).................เพียงพึ่งตน มนอุตสาห์
กำจัด อกุศลา....................................เพียงแค่ว่า อาศัยจินต์(อกุศลา=อกุศล)

    สำนึก ในบาป-บุญ..........................ประเสริฐสุนทร์ พิบุลสิน
คุณ-โทษ บทชีวิน...............................มิผกผิน ทุกวิญญาณ

    เป็นบุพ พกรรมจร............................ทางสุนทร บวรศานติ์
ศุภผล ดลบันดาล................................ทุกชนชั้น วรรณะเอยฯ

๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หากโลกไร้...: กลอนหก



หากโลกไร้...: กลอนหก


    ถ้ารุ่ง อรุ โณทัย.....................สิ้นไร้ สุรีย์ รุจีส่อง
ความมืด ทะมึน ขึ้นครอง..............โลกต้อง หมองหม่น ทนทาน

    แค่ใน วันล้น ฝนตก.................ฝูงนก เงียบเสียง เพรียงศานติ์
รู้สึก เศร้าทราม รำคาญ................ฤดีเลิก เบิกบาน กานต์ไกร

    ถ้าหาก อาหาร ลาญรส............คงหมด ความอยาก ผลักไส
โลกา จะเป็น เช่นไร?...................(เมื่อ)สัตว์ไม่ กิน-ล่า มร ยอม(มร อ่านว่า มะระ)

    ถ้าหาก โลกไร้  ไม้ดอก............คอยออก ประทิ่น กลิ่นหอม
คงแร้น ภิรมย์ ดมดอม...................จงถนอม ดอกไม้ หลายมี

    หากธรรม (มะ)ชาติ ขาดสูญ.......อาดูร ทั้งโลก โศกศรี
(พึง)ระวัง ระไว ให้ดี.....................อย่าให้ ใครรี่ ทำลาย

    คุณงาม ความดี วิบัติ.................มนัส อัตคัด ขาดหาย
สัมพันธ์ สรรค์สรรพ กลับกลาย........ปองร้าย ให้ราญ ทัณฑ์ลง

    ไม่ซื่อ ถือสัตย์ สุจริต.................มุ่งคิด มิจฉา ประสงค์
คนชั่ว แพร่หลาม ธำรง...................ยืนยง เป็นใหญ่ ไททะยาน

    คงไร้ ไม่มี สันติสุข....................ความทุกข์ คุกคาม ห้ำหาญ
โลกา=นรก มิปาน.........................จงขาน ความดี วีระเทอญฯ

๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รักมักเป็นเช่นอารมณ์ : โคลงสี่สุภาพ



รักมักเป็นเช่นอารมณ์ : โคลงสี่สุภาพ


. แสงทองที่ส่องหล้า..................คราอรุณ
บริสุทธิ์ดุจพิบุล..........................มาศแม้น(พิบุล=มาก,มาศ=ทอง)
เหล่านรา ยกค่าคุณ.....................พิเศษ
นานาประเทศแคว้น.....................ต่างคล้ายคลึงตรองฯ

. สูรย์แสงทองส่องหล้า...............ก่อนสายัณห์
ไม่ประทับใจกัน...........................แต่น้อย
บริบทที่แผกผัน...........................ประสิทธิ์
ดวงจิตความคิดร้อย......................ลบล้างโสภาฯ

. ล่วงสายัณห์ยามสร้าง................สีสัน
ศิลปะแห่งตะวัน...........................วาดฟ้า
โดดเด่นเป็นมหันต์.......................งามเหตุ
จึ่งจิตจรุงกล้า..............................เกิดกล้ำความงามฯ(จรุง=จูง)

. เปรียบเทียบความเคียงได้...........กับรัก
หนุ่มสาวประสงค์สมัคร..................ชื่นชู้
แรกเริ่มประเดิมมัก........................มาดมั่น
ผ่านกาลผ่านกามอู้.......................อิดเอื้อนเลือนสลายฯ

. คนก็คนเก่าคล้าย......................คลึงเดิม
อาจมีที่เพิ่มเสริม..........................ใหม่บ้าง
เหตุรังเกียจเสียดเติม.....................สบแต่ง
แบ่งแยกแปลกแยกสร้าง................ทางล้างสัมพันธ์ฯ

. เห็นคนใหม่เพริศพริ้ง..................พานเพรา
คุณสมบัติสมใจเหมา......................คู่เนื้อ(เนื้อคู่)
สารพัดเหตุผลเอา..........................ประกอบ
มอบรักบริสุทธิ์เอื้อ.........................ทอดทิ้งคนเดิมฯ

. รักมักเป็นแค่เพี้ยง......................อารมณ์
คิดปรุงแต่งแปลงปม.......................เปลี่ยนได้
ราคะพานิยม.................................ยึดมั่น
โลกย์ครรลองปองให้......................รักแท้แค่ไหน?

๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อย่าเที่ยวกลางคืน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘



อย่าเที่ยวกลางคืน : กาพย์สุรางคนางค์๒๘

    .......................................อย่าเที่ยว กลางคืน
ระทึก ดึกดื่น...........................รื่นเริง แสงสี
ดื่มเหล้า เมายา.......................กามา ราคี
ประโยชน์ ไม่มี........................เพิ่มพี เภทภัย

    ........................................ทำงาน ทั้งวัน
ประเสริฐ สุขสันติ์......................คือการ หลับใหล
พรุ่งนี้ มีแรง.............................ปัญญา แกร่งไกร
สร้างสรรค์ การใหญ่...................อย่างให้ ยืนยง

    .........................................บันเทิง สถาน
กลางคืน ดื่นดาล.......................ลวงมาน ใหลหลง
คนชั่ว ชุกชุม............................ซุ่มทราม ดำรง
ไร้ซื่อ ถือตรง............................ประสงค์ อาชญา

    ..........................................อุปัท (ทะ)วเหตุ
มรณา อาเพศ............................เขตขัณฑ์ ปัญหา
มักเกิด กลางคืน.........................เริงรื่น มายา
ทอนบั่น ปัญญา..........................อุรา โง่งม

    ...........................................รักดี ชีวัน
(จง)เข้มงวด กวดขัน....................ศีลธรรม์ สั่งสม
คุณงาม ความดี...........................กีรติ นิยม
เริงรื่น ชื่นชม...............................อุดม ดวงใจ

    ............................................จะมี ชีวิต
จำเริญ เพลินพิศ...........................พิจิตร แจ่มใส
รักดี ทำดี....................................มีระเบียบ วินัย
พื้นฐาน ดาลให้.............................ได้ดี วีระเทอญ ฯ

๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ถึงเวลาคิดใหม่ทำใหม่ : กลอนสิ่งแวดล้อม



ถึงเวลาคิดใหม่ทำใหม่ : กลอนสิ่งแวดล้อม

    ในน้ำมี มัจฉา นามีข้าว.....................คำบอกกล่าว ป่าวเห็น เป็นสักขี
แผ่นดินทอง ของไทย อำไพพี................แสนอยู่ดี กินดี มีสุขใจ

    ประวัติศาสตร์ ชาติสยาม ต้องรำลึก......ปีนี้แล้ง ระทึก คึกขยาย
จนรัฐห้าม ทำนา เกรงจะตาย...................ขาดน้ำกิน น้ำใช้ หลายเขตคาม

    เคยอยู่เป็น เย็น-ง่าย ใช้ชีวิต................คอยแต่คิด ไทยอุดม สมบูรณ์หลาม
ไม่จำต้อง อุตส่าห์ พยายาม.....................สนุกจิต คิดย่าม(ใจ) ตามใจตน

    รุกธรรมชาติ ตัดไม้ ทำลายป่า..............ผลาญทรัพยาฯ ตักตวง ไม่ห่วงผล
สภาวะ โลกร้อน ย้อนคืนยล.....................ต้องลำบาก ลำบน ทนทรมาน

    ถึงเวลา คิดใหม่ ทำตัวใหม่..................ก่อนจะไร้ โลกา โอฬาร์ศานติ์
ปราศจากโลก ใบใหม่ ในจักรวาล..............ให้เราอยู่ สำราญ (จง)รู้อันตราย

    ประหยัดกิน ประหยัดใช้ ใจฉุกคิด..........ก่อนชีวิต วิกฤติกล้า สุขสลาย
ยอมอดทน อดกลั้น ตัณหากลาย...............ดีกว่าสลด (เพราะ)อดตาย ใจลำเค็ญ

    เริ่มใช้น้ำ ใช้ไฟ ให้ประหยัด..................รู้จักหัด ทำติด นิสัยเห็น
หากยังอยาก อยู่ดี มีสุขเย็น......................จงคิดเป็น คิดใหม่ ทำใหม่เทอญ ฯ

๑๘ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

องค์ประกอบชีวาประภัสสร : กลอนแปด



องค์ประกอบชีวาประภัสสร : กลอนแปด

    ลมลูบไล้ ปลายข้าว ราวดูแล.....................แดดแผดแผ่ ใบเสาะ สังเคราะห์แสง
น้ำท่วมขัง โคลนขุ่น หนุนเรี่ยวแรง...................ข้าวก้าวแกร่ง เติบโต ต้นโสภา

    องค์ประกอบ รอบข้าง สร้างรวงข้าว.............ผลิตเมล็ด อวบขาว เพราชิวหา
ผ่านกิจกรรม หลามหลาย คล้ายมรรคา.............เพื่อคุณค่า เสริมส่ง อลงกรณ์

    เฉกเช่นการ คงอยู่ คู่ชีวิต..........................ต้องประสิทธิ์ กิจกรรม ธรรมาสร
เพื่อประสบ ประเสริฐ เกิดบวร.........................ความพิบูล สุนทร กำจรใจ

    บริโภค อาหาร พันธ์ประโยชน์....................มิก่อโทษ อดอยาก ลำบากศรัย
เสริมสุขภาพ กาย-จิต สฤษฏ์ไกร.....................ภูมิต้านทาน โรคภัย ให้พ้นตัว

    หัดตรองตรึก ศึกษา หาความรู้....................การเป็นอยู่ อุปสรรค ลานหลากทั่ว
พลังธรรมชาติ  ชีวิต ติดพันพัว........................สิ่งยวนยั่ว หัวใจ ให้หลงทาง

    การรู้จัก รักษา สุขภาวะ.............................จิต-กายะ อนามัย ใสกระจ่าง
รู้หลบหลีก ศัตรู-สู้-ปล่อยวาง..........................เฝ้าเรียนรู้ อยู่อย่าง ไม่วางมือ

    ความเข้าใจ สัจจา กฎธรรมชาติ...................เพิ่มปรีชา สามารถ พัฒนาถือ
ทรงคุณธรรม สำนึก หมั่นฝึกปรือ......................สุจริตซื่อ คือหลัก ศักดาธร(ศักดิ์+อาธร)

    อยู่ให้ห่าง ทางชั่ว คนชั่วช้า.........................องค์ประกอบ ชีวา ประภัสสร
จะสุนทรีย์ จิตรา มิอาวรณ์...............................คือสัจจริง สิ่งสอน ปกรณ์เอยฯ

๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ชีวีบริบาล : กาพย์ฉบัง๑๖



ชีวีบริบาล : กาพย์ฉบัง๑๖

    ครั้นล่วงเวลารุ่งอรุณ..................บรรดาสกุณ(สกุณ=นก)
ต่างสุนทรีย์ปรีติเสียง

    ตื่นนอนต่างอย่างพร้อมเพรียง....................ใกล้ไกลไล่เลียง
เคียงคู่สุรีย์พีระแสง

    นอนแต่หัวค่ำสำแดง.................ตื่นเช้าเบาแรง
กายใจไกรแกร่งแข็งขัน

    กีฬานานาสารพัน................ออกกำลังหมั่น
ต้านทานโรคภัยให้ห่างเหิน

    วิถีชีวะประเชิญ.................ประมาททำดำเนิน
เพลิดเพลินเกินไป->ร้ายผล

    หากแม้นไม่ระวังตน................อาจมีอัปรีย์ชน
หาหนทางสร้างทุกข์เข็ญ

    ธรรมชาติบาทบทกฎเกณฑ์.................โลกมี(คน)ดี-เดน
(อยู่)ร่วมเป็นปกติวิสัย

    จึงต้องตั้งอกตั้งใจ..................ระวังระไว
อย่าได้ประมาทอาชญา

    คือหนทางสร้างชีวา................บันเทิงเริงร่า
ธำรงอุราสุขศานติ์

    คือหลักวิธีบริบาล................ชีพรื่นพื้นฐาน
ธรรมดาสามัญสำราญเอย ฯ

๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อารมณ์อ่อนไหวจิตใจอ่อนแอ : กาพย์สุรางคนางค์๓๒



อารมณ์อ่อนไหวจิตใจอ่อนแอ : กาพย์สุรางคนางค์๓๒

    อารมณ์อ่อนไหว..........................จิตใจ อ่อนแอ
มิวาย พ่ายแพ้..................................แก่ความ ลุ่มหลง
ควบคุม ไม่ได้..................................ไร้ความ มั่นคง
(ย่อม)มิพึง ประสงค์..........................พะวง วิญญาณ(วิญญาณ=จิตใจ)

    (จะ)นำความ เดือดร้อน..................กลับย้อน มาให้
จงเร่ง แก้ไข....................................ก่อนภัย แผดผลาญ
ใครได้ ใกล้ชิด.................................ก็คิด รำคาญ
คนไม่ เอาถ่าน..................................ทรมาน ชีวา

    อ่อนไหว ไม่ว่า..............................แต่อย่า อ่อนแอ
อ่อนไหว ใจแค่..................................ปรวนแปร (ความ)ปรารถนา
อ่อนไหว=ไม่แกร่ง.............................เข้มแข็ง อุรา
ประจัญ ปัญหา...................................จะล้า โรยลาญ

    อารมณ์ อ่อนไหว............................ใครยาก จักคบ
เปลี่ยนใจ ไม่จบ.................................(ย่อม)มิสบ สุขศานติ์
ประสบ คบคน....................................สนใจ ไม่นาน
เพลิดเพลิน เดินผ่าน............................ก็พาน เปลี่ยนไป

    ฝึกจิต คิดตาม................................ตั้งความ สงบ
ตัณหา สยบ.......................................กลบถอน (อารมณ์)อ่อนไหว
อุรา อย่าด่วน......................................ปรวนแล แปรไว
ควบคุม เข้าไว้.....................................อย่าได้ ใจตาม(ตามใจ)

    พากเพียร วิชชา..............................ปัญญา สะสม
สัจจา ระดม........................................วิกรม ข่มขาม
ธรรมตรึก ศึกษา..................................อุตส่าห์ พยายาม
อาจพ้น จากความ................................อ่อนแอ แน่เอย ฯ

๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๘

วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

หากไร้คนดีห้ามริรัก : กลอนเจ็ด



หากไร้คนดีห้ามริรัก : กลอนเจ็ด

    ทุกๆ วันนี้ มักมีข่าว.........................หนุ่มสาว ร้าวราน สัมพันธ์สลาย
คนเฒ่า เอาด้วย ไม่ขวยอาย.................เล่นกัน ถึงตาย ถ้าไม่รัก(กู)

    เตือนใช่ ภัยแฉ แดมนุษย์.................ที่สุด เห็นแก่ แต่ตนหนัก
อย่าไว้ ใจคน ฉลฉ้อชัก........................อย่าสัก (แต่ว่า)คบหา สมาคม

    คบแล้ว เลิกรา ปัญหาหลาก..............อีกฝ่าย ไม่อยาก(เลิก) จักแค้นขม
ต่างคน ต่างใคร่ ใช้อารมณ์....................ขืนข่ม ฆ่าฟัน ม้วยบรรลัย

    รักง่าย หน่ายเร็ว ความเหลวแหลก.......ไม่แจก แจงหา อุปนิสัย
คบกัน ไว้ก่อน รีบร้อนใจ........................(ค่อย)ศึกษา กันไป เป็นไพรี

    ถึงขั้น บางครั้ง ยังลูกติด....................จึงคิด เลิกรา พาบัดสี
ทำตาม ใจตน กลวิธี..............................ยุคสมัย 4G ยอดนิยม

     จองหอง พองจิต คิดอวดเก่ง..............เลี้ยงลูก ได้เอง ครื้นเครงขรม
ลูกไร้ พ่อ/แม่ เริ่มแพร่พรม......................สั่งสม ปัญหา อัประมาณ

    (สถานะ)พ่อ/แม่/ลูกเลี้ยง เคียงรักใหม่...สายใย ใจคอ ยากต่อสาน
ข่าวข่ม เหงเด็ก อเนกดาล.......................สะท้าน สังคม โสมมครอง

    หากไร้ คนดี อย่าริรัก..........................รู้จัก หักห้าม กามสนอง
ใครไม่ รักเรา อย่าเมามอง........................จักต้อง ถึงตาย บาปหลายเอย ฯ

๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๘