ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ภาพขำขำ 4

ภาพขำขำ 4



กิกิกิ ....
คนผีทะเล
บ้า...

กำลังคุยกันแท้ๆ
อยู่ดีๆก็มาชมเรา ว่า...
น่ารัก...
ชอบเสียงของเรา...

มาบอกว่าเราเฉลียวฉลาด...
มีรสนิยมในการแต่งตัว...
มีเสน่ห์...

แถมยังมาขอแม่ ...
จะพาเราไป dinner ท่ามกลางแสงเทียนอีก...

คนบ้า...
กิกิกิ ...

๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๔




อิ อิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

อย่าจับเอว..

อิ อิ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔








แค่ หนูทดลอง..เหรอ?

ลองมาดู แมวน้ำ โดนทดลองดูสิ 

ว่ามันพิลึกพิลั่น ปานไฉน ...?

๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๔








หวา..???

ทำได้ไง ???

พี่น้อง-พวกผองชาวโลก...


ช่วยกันบริจาคสิ่งของ มาช่วยผู้ประสบภัย ที่เดือดร้อนทุกๆคน

ไม่ใช่ให้มา...เพื่อช่วยเพียงพรรคพวกของใคร...

บางคน/บางกลุ่ม/บางสี นะคับ

ของบริจาค ของคนอื่น 

คุณยังกล้า-หน้าด้าน เอาชื่อของตัวเองมาติด....?????

เอาไปแจกจ่าย แต่พรรคพวกของคุณ...? ???

กระทั่ง " ความดี " ของคนอื่น

คุณยังคิดที่จะขโมย...ไปเป็นของคุณ

แล้วสมบัติของชาติ มันจะเหลือเหรอคับ ?

๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔





ย๊ากกกกกกกก..

ผั๊ว!

ที่มาของเหตุการณ์นี้
ต้องเล่าย้อนไปเมื่อ 10 ปีก่อน

เมื่อนาง " เล่งฮวยนึ้ง "(แมว)
ได้มีสิเน่หารมณ์ กับ จอมยุทธกระบี่โหยหวน(หมา)

หลังจากตกร่องปองชิ้น ไปได้ไม่กี่เพลา
นางก็ถูกเลี้ยงด้วยลำแข้งไม่เว้นวัน

สุดที่จะทานทนต่อไป....
ในคืนพระจันทร์ ครึ่งเสี้ยว
นางได้หนีไปสู่หุบเขามังกรหลงทาง
คารวะมอบตัวเป็นศิษย์ของไต้ซือ " ลื้อเซี้ยะอั๊ว "

ฝึกหัดวิทยายุทธอยู่นาน 1 ฤดูฝน
แล้วนางก็ถูกขับออกจากสำนัก
เพราะชอบแอบไปขโมยกินปลาย่างกลางดึก
จนอาจารย์ทนไม่ไหว


นางลงจากเขา มุ่งสู่บ้านเก่า
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็พบกับภาพ เรท R+++
สุดที่จะทนต่อไป
นางบันดาลโทสะ กระโจนขึ้นสู่อากาศ สูง 20 เชี้ยะ
ก่อนจะบรรจงวางฝ่าเท้า
ลงไปบนใบหน้าของจอมยุทธขี้หลี(สามีเก่า)

ย๊ากกกกกกกก..

ผั๊ว!

( หมดเวลา..โปรดติดตามตอนต่อไป....)

๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔






( ต่อจากเมื่อวาน)...

หลังจากโดนนาง " เล่งฮวยนึ้ง "(แมว)ผู้เป็นภรรยา
ให้การอบรมสั่งสอนสามี ด้วยวิทยายุทธ

จอมยุทธกระบี่โหยหวน(หมา)ผู้สามี
ที่เคยกร่าง วางท่าใหญ่โต คับบ้านคับซอย
ก็เปลี่ยนพฤติกรรม
กลายเป็นหมาน้อย จ๋อยซะไม่มี

จากที่เคยเอาแต่นั่งๆนอนๆ
ก็ต้องช่วยทำงานบ้าน
กวาด-ถูบ้าน ล้างถ้วยล้างจาน ซัก-รีดเสื้อผ้า ฯลฯ
ดูแลปรนนิบัติภรรยา อย่างขยันขันแข็ง
ทุกเมื่อเชื่อวัน

ในยามใดที่ทำให้ภรรยาไม่พอใจ
ก็ต้องรีบเผ่นไปให้ไกลรัศมีฝ่าเท้าของนาง

นาง" เล่งฮวยนึ้ง " แมวน้อยผู้อ่อนแอ
กลับกลายมาเป็นนางเสือร้าย
ครองความยิ่งใหญ่ภายในบ้าน
นับแต่นั้นเป็นต้นมา...

เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้...

๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔












กองบุญกฐิน : กลอน



กองบุญกฐิน : กลอน
(สัมผัสสระ หลายแห่ง ผิดฉันทักษณ์ เพราะ ข้อจำกัด ของศัพท์เฉพาะที่้ต้องการนำเสนอ)


      ธงชาติ สะบัดปลิว.....................หมู่ธงทิว สะบัดไป
ธงธรรม สะบัดไหว.........................ธงหลากหลาย ในกาลกฐิน

      สิ้นวาร แห่งพรรษา....................เริ่มเพลา บุญระบิล
พุทธ(ธะ) บริษัทสิ้น........................ตั้งจินดา สาธุการ

      รวบรวม ทุนทรัพย์....................ซื้อหาสรรพ (พะ)บริขาร
ผ้าไตร-แว่นฟ้าพาน........................เพดาน-ครอบผ้าฯ-สัปทน

      ผ้าเช็ดตัว-เช็ดหน้า...................เข็ม-ด้าย-ธัมกรก-กระโถน
ร่ม-รองเท้า-มีดโกน.........................ปิ่นโต-ต้นโพธิ์-ตาลปัตร

      ฉัตร-พุ่มเงินทอง-อาสนะ............ภาชนะอาหาร-บาตร
ตู้พระธรรม-ธรรมาสน์........................ฆ้อง-ระฆัง-สาด-เสื่อ-หมอน ฯลฯ

      ข้าวของ กองพะเนิน...................ซื้อกันเพลิน สุขสโมสร
ญาติมิตร จิตอาทร............................ร่วมคอนบุญ จุนเจือครัน

      อธิษฐาน ประสานจิต...................ผลสัมฤทธิ์ ทิศสวรรค์
ทุกชาติ รวยมาดมั่น...........................ทรัพย์-บ้านช่อง-พ้องมากมี

      ได้เป็นใหญ่ เป็นโต......................เรืองเดโช โฆษิตศรี
ให้ได้ดิบ ได้ดี...................................มีความรู้ สติปัญญา ฯลฯ

      กลองยาว เอามาแห่......................รำป้อ พ่อแก่-แม่ค้า
ลูกเด็ก-เล็กสาวเข้ามา.........................รำฟ้อนร่อนร่า เริงราย

      วนรอบ โบสถ์วิหาร........................สมภาร รับทานถวาย
พระเณร ไม่เว้นวาย.............................ร่าย"..กาเล ททนฺติ สปญฺญา.."

      ญาติโยม ถวายเพล.......................ประเคน หัตถบาตรภัตรา
พระเณร อนุโมทนา............................"..อายุ วณฺโณ สุขํ พลํ.." ฯ

๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔

ฉันทลักษณ์ ประดุจ ภาชนะ : โคลงสี่สุภาพ




ฉันทลักษณ์ ประดุจ ภาชนะ : โคลงสี่สุภาพ

. ส่งของไปยังผู้....................อยู่ไพร
บรรจุภาชนะใน......................ใส่แล้ว
ประสงค์สิ่งจงใจ.....................ไปสู่
อยู่ในภาชนะแพร้ว...................ห่อนให้ภาชนะฯ

. ภาชนะสะคราญได้...............เพียงใด
สิ่งสำคัญภายใน......................ค่าค้ำ
ผู้รับคิดขับไส..........................ไขส่ง
เท่าส่งไปเปล่าล้ำ.....................ป้ำป้ำเป๋อเป๋อ ฯ

. ฉันทลักษณ์ประจักษ์คล้าย......ภาชนะ
บรรจุอักษร-สระ........................ใส่ไว้
ส่งอรรถาสาระ..........................สารสื่อ
ไพเราะเสนาะไซร้......................สดับด้วยฉันทา ฯ

. ฉันทลักษณ์ชวนรักษ์ให้...........เหมาะสม
แก่สาระระดม.............................ยิ่งล้ำ
ผิเลือกผิดผิดคม.........................คำขื่น
พาทย์พิกลผลกล้ำ......................เสื่อมไร้สาระ ฯ

. ฉันทลักษณ์รักล้ำ...................วิทยา
บรรจุแต่อวิชชา...........................ค่าไคล้
อกุศลสิทธิ์มิจฉา..........................อคติ
กล่าวเกร่อเพ้อเจ้อไซร้..................เถื่อนถ้อยถ่อยฉันท์ ฯ

. ฉันทลักษณ์ทักที่แท้.................ถ่องถึง
สาระธรรมคำนึง............................ซึ่งล้ำ
ก่อประโยชน์โจทย์จึง......................พิจิตร
ต่อชีวิตพิศพล้ำ............................เพริศพริ้งพิไล ฯ

๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๔

ตัวอย่าง ละเลยฉันทลักษณ์
" ...กูเป็นนิสิตนักศึกษา            หรูหราแหลมหลักอัครฐาน 
พรุ่งนี้ก็ต้องไปร่วมงาน              สังสรรค์ในระดับปริญญา..."
กูเป็นนิสิตนักศึกษา ; สุจิตต์ วงษ์เทศ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี ๒๕๔๕ 

วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ได้ไม๊ ?..ได้ไม๊ ? คนดี : กลอนรัก


                                       

ได้ไม๊ ?..ได้ไม๊ ? คนดี : กลอนรัก
(ละเลยฉันทลักษณ์)

        อย่าเดิน ล้ำเกินหน้า...............เพราะเหมือนว่า จะทิ้งฉัน
และอย่า ล้าหลังกัน......................กลัวเผลอผลัน เธอหายไป

        โปรดเทอญ เดินเคียงข้าง........เพราะช่วยสร้าง กำลังใจ
ทำฉัน มั่นฤทัย.............................มิได้อยู่ เพียงผู้เดียว

        อย่าปล่อย มือฉันว่าง..............เหมือนเหินห่าง ร้างเปล่าเปลี่ยว
ยึดไว้ ให้แน่นเหนียว.....................แล้วอย่าเหลียว เที่ยวมองราย

        โปรดฟัง ฉันช่างพูด................จ้อไม่หยุด ไร้จุดหมาย
เธออยู่ เคียงคู่กาย.........................ไม่รู้ทำไม ? อยากพูดจัง...

        อย่านิ่ง ฉันยิ่งถาม....................เหมือนมองข้าม ทำลายหวัง
อย่าทำ ( เหมือน) อยู่ลำพัง.............เหมือนเมินหมาง ร้างราไกล

        ถามเนืองๆ เรื่องของฉัน............มันสำคัญ มากรู้ไหม ?
แย้มยล เธอสนใจ..........................ในตัวฉัน สำคัญมอง

        อย่าหึง พึงหวงแหน.................อย่างเป็นแฟน เป็นเจ้าของ
ป้องฉัน ปานเงินทอง......................ต้องรักษา อย่าหายไป

        โปรดบอก แม้เบาๆ..................เพียงสองเรา..รู้..เข้าใจ..
ว่า "รัก " มากเพียงใด ?..................ได้ไม๊.. ?..ได้ไม๊..? คนดี ฯ

๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔

ความดี ประดุจยาน : อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑


ความดี ประดุจยาน : อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
(ไม่ถูกฉันทลักษณ์สักเท่าไร เน้นเล่นคำ)

      ความดี ประดุจยาน...................สุวคราญ สุวคนธ์
นำฝ่า กระแสชล.............................บ่มิมล บ่มีมัว

      ความดี ประดับใจ.....................สุวิชัย สุวายชั่ว
กำจัด ขจัดกลัว..............................มนกล้า มนาไกร

      ความดี ประดับจิต.....................สุวิชิต สุวิทย์ชัย
โสภณ พิมลไพ-.............................รำมณี รำมนา

      ความดี ประดอยชีพ...................สุประทีป สุประทาย์
ป้องกัน มหันตา..............................ภยพ้น พยนต์พำ

      ความดี ประดนสุข.....................นิรทุกข์ นิรุกติ์ธรรม
ศานติ์ศรี วิศาลสำ-...........................รวล ระวางรีต์

      ความดี ประดิรพ........................ยศสบ ยศาศรี
ศักดิ์มา สาธุมี..................................คุณเลิศ คุณาเริง

      ความดี ประดิชญา......................ศิระกราน์ ศิราเกิง
บุญชี วะบันเทิง................................พฤฒา พลาทร

      ความดี ประโดยสิษฏ์...................อมฤต อมิตรรอน
ผลพา สถาพร..................................สุคติ สุขีเอย ฯ

๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๔

วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ความสงบ สร้างสุข : กาพย์สุรางคนางค์๓๒



ความสงบ สร้างสุข : กาพย์สุรางคนางค์๓๒


        คลื่นใส ไหลสาด...................เซาะหาด ซัดทราย
ลูกเก่า เข้ากราย...........................ลูกใหม่ เท่าทัน
เสียงคลื่น ครืนครวญ....................รัญจวน รวนจรรย์
คล้อยคลื่น ครืนครัน...................เสพศานติ์ สุนทร

        ลมพัด ผัดผิว.........................ผมปลิว สยาย
ลมลูบ จูบกาย..............................ไล้พาน อัมพร
ดั่งลอย ลิ่วไป...............................ในนภา ภัสสร
เมฆา รื่นร่อน.................................อิสรา สบาย

        รุ่งอรุ โณทัย............................ผ่อนไคล ความคิด
ปล่อยวาง ชีวิต...............................ปล่อยจิต ทุกข์หาย
พักผ่อน นอนนิ่ง..............................ทุกสิ่ง วางวาย
ปล่อยไป จากปราย..............................ให้ว้าง บางเบา

        หลับตา ล้มตัว...........................วางหัว บนหาด
สูดเอา อากาศ.................................สะอาด ใสเข้า
เหนื่อยล้า ทยอย...............................ค่อยค่อย น้อยเนา
มีพลัง พร่างเพรา..............................กลับฟื้น คืนมา

         แรงกาย แรงใจ...........................หาใน ความสงบ
มากมาย ให้พบ...................................ศานติ์สบ สุขา
ไม่ต้อง เหนื่อยยาก...............................ลำบาก กายา
ไม่ใช้ เงินตรา.......................................ซื้อหา กังวล

        ยิ่งไกล ธรรมชาติ............................ยิ่งขาด ความสงบ
ยิ่งยาก จักพบ.......................................การณ์สบ กุศล
ยิ่งใกล้ ธรรมชาติ...................................สัจนาถ จำนน
ยิ่งพบ สบผล.........................................พิมล พิมาน ฯ

๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๔

อย่ายอมจำนน : กลอนกำลังใจ


                                   

อย่ายอมจำนน : กลอนกำลังใจ


        เสียใจทำไม ?.................กับใครที่ทำร้ายเรา
หากทำให้เขา......................สำนึกผิดจงเสียใจ

        แต่หากว่าเขา..................พอใจที่เราเสียหาย
จงเข้มแข็งไว้.........................แกร่งไกรต่อสู้กู้คืน

        เราก็เป็นคน.....................อย่าทนชอกช้ำกล้ำกลืน
เอาความขมขื่น.......................แข็งขืนฟื้นเป็นพลัง

        กอบกู้สู้เกียรติ...................หยามเหยียดเดียดดาสะสาง
อย่าให้คั่งค้าง..........................ประดังประดุจหมุดใจ

        หากไม่สามารถ..................จะขัดเคืองเนืองไฉน ?
ต้องจำทำใจ............................จดจำไว้เป็นบทเรียน

        คนที่ทำร้าย.......................ไม่ใช่มิตรคิดเสถียร
คนที่เบียดเบียน........................ไม่ผิดเพี้ยนพลาด=ศัตรู

        คนที่ลวงหลอก...................ดั่งหอกข้างแคร่แลรู้
จำจดอดสู................................อย่าอยู่อย่างเขลาเมามาย

        อย่าทำจำนน......................ยอมตนทนกรำทำร้าย
หลีกลี้หนีหาย...........................อย่าได้อยู่ใกล้ชิดเอย ฯ

๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554

รำพึงรัก : กลอนรัก



รำพึงรัก : กลอนรัก


        รัตติกาล์ อากาศแห้ง................มากลั่นแกล้ง กันไฉน
หนาวครู่เข็ญ ลำเค็ญไคล.................อกหวั่นไหว ใจจรจม

        ใคร่ครวญคร่ำ ระกำขุด...............ถึงวรนุช สุดขื่นขม
น้องอยู่ไกล ใจกรอมกรม...................ตื่นมาตรม ระทมทาน

        ยามวิกาล มานมืดมิด..................จราญจิต คิดขื่นขาน
โอ้แก้วตา เสาวคราญ.........................ป่านฉะนี้ เป็นฉันใด ?

        ใครจะเฝ้า เข้าฟูมฟัก ?.................ใครเคียงศักดิ์ ภักดิสัยน์ ?
ใครครองเจ้า คอยเอาใจ ?....................ใครโลมไล้ นัยนา ?

        มองประทีป ระยิบระยับ...................มองมนกลับ ระส่ำระสาย์
มองดารา ระดะระดา.............................มองอุรา ละล้าละลัง

        ดึกดื่นเจ้า จะหนาวไหม ?.................อยากอยู่ใกล้ จนใจหวัง
จงฝันดี ศรีสุรังค์...................................สุขสมสั่ง กระจ่างไกร

        สาวิตรี รังสิมา................................ปรายประภา อรุโณทัย
ค่อยเรืองรอง ผุดผ่องไข.........................เช้าวันใหม่ กรายใกล้มา

        สุรางคนา ยาใจพี่.............................จงสุขี อธิษฐาน์
ความรักคง อลงการ์..............................ภายภาคหน้า มาคู่เคียง ฯ

๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๔

ปัญหา-อุปสรรค=โอกาสแห่งการสร้างสรรค์ชีวิตให้สวยงาม : กลอนเปล่า




ปัญหา-อุปสรรค=โอกาสแห่งการสร้างสรรค์ชีวิตให้สวยงาม : กลอนเปล่า

โลกใบนี้...
มีธรรมชาติแห่งสภาพภูมิประเทศ...
และอาณาเขต ที่ไม่ราบเรียบ...

มีที่สูง-ที่ต่ำ
มีแม่น้ำลำธาร-เนินดิน
มีภูเขา-หุบเขา
ฯลฯ

สภาพภูมิประเทศเหล่านี้ ....
แม้ดูทีท่า...
ว่าเป็นปัญหาอุปสรรคต่อการเดินทาง

แต่ในขณะเดียวกัน
ก็มองอีกอย่าง..
ว่าเป็นความสวยงาม
แห่งธรรมชาติที่หลากหลายได้ด้วย....

เมื่อเราต้องเดินทางบนเนินดิน....
จนมาสิ้นสุด สะดุดอยู่ที่ลำธาร...
อันไม่สามารถเดินข้ามพ้นไปได้

แทนที่ถอดใจ...
ยุติการเดินทาง ณ เพียงริมลำธาร...

หากว่าเรามีจินตนาการและความอุตสาหพยายาม
ใช้ความรู้ความสามารถ...
สร้างสะพานเพื่อใช้ก้าวข้ามไป

เราย่อมได้รับความสะดวกสบาย
และความสุข...
ในการเดินทางให้ไปได้ไกลยิ่งขึ้น

มีความภาคภูมิใจ ....
ในความรู้ความสามารถ-ทักษะฝีมือของเรา
ในการเอาชนะปัญหา อุปสรรค...
แก้ไขสถานการณ์
จนสำเร็จลุล่วงไปได้...

สะพาน เล็กๆ...
ย่อมเสกสรรค์ให้ภาพของเนินดินและลำธาร...
สวยงามขึ้นมา
อย่างทันทีทันใด...

ฉันใดก็ฉันนั้น....

ชีวิต...
มีธรรมชาติอันไม่ราบรื่นเสมอไป
มีปัญหาอุปสรรคมากมาย...
ตลอดเส้นทางแห่งการดำเนินชีวิต

หากเราไม่ปล่อยจิตใจ...
ให้อ่อนแอ ท้อแท้ และเกียจคร้าน
มีความคิดที่ดีงาม...
มีความเข้มแข็ง มุ่งมั่นและสร้างสรรค์จินตนาการอันเป็นกุศล
มีความวิริยะอุตสาหพยายาม...

ใช้ความรู้ความสามารถและศักยภาพทั้งหมดที่เรามีอยู่....
แก้ไขปัญหา อุปสรรค
อันยากลำบาก โดยไม่ท้อถอย ไม่บุ่มบ่าม และไม่ประมาท....

จะพบว่า ....
ปัญหาอุปสรรคเหล่านั้น
กลับสามารถใช้ให้กลายเป็นโอกาส....
ที่เราจะได้คิด...ได้เรียนรู้ ...ได้พัฒนาทักษะความสามารถ
และจิตใจของเรา
ในการดำเนินชีวิตต่อไป....

แม้ว่าการแก้ปัญหาอุปสรรคมากมาย...
อาจประสบกับความผิดพลาด-ล้มเหลวอยู่บ้าง...

แม้ว่ากระบวนการแก้ปัญหาอุปสรรคของเรา
จะไม่ทำให้เราได้เป็นคนร่ำรวย....เช่นเศรษฐี
ไม่ทำให้เรามั่งมีศรีสุขอยู่ดีกินดี...เยี่ยงคนใหญ่คนโต
ไม่ทำให้เรามีชื่อเสียงเลื่องลือระบือไกล

ขอเราอย่าได้ท้อแท้ และหมดกำลังใจ
เพราะผลสำเร็จอย่างน้อย...
คือ เราได้เรียนรู้ ...
ได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้น

ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญในการแก้ปัญหามากขึ้น
ทำให้เราเป็นคนที่มีความสามารถมากขึ้น
ทำให้เราเป็นคนที่เก่งกว่าเดิม
ทำให้เรามีทักษะที่จะใช้เผชิญปัญหาอุปสรรคใหม่ๆต่อไป
ทำให้เรามีจิตใจที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น

อุปนิสัยใจคอ ทีดีงาม...
ความคิด ที่ดีงาม ...
สติปัญญา...
ความรู้ ความสามารถ...
ผลงานดีงามที่ได้สรรสร้าง...

จะส่งผลให้...
ชีวิตดีงาม สวยงาม...

จะส่งผลให้...
มองเห็นโลกสวยงาม...
มีความสุข ในการดำเนินชีวิต...
มีความพึงพอใจ ในการเผชิญปัญหา อุปสรรค...

ปัญหา อุปสรรคใหม่ๆ....
โอกาสใหม่ๆ...

ยังคงรอให้เราได้พัฒนาตัวเอง
ยังคงรอให้เราได้พัฒนาชีวิตจิตใจของเราให้ดีขึ้น...

ยังคงรอให้เรา....
ได้สร้างสรรค์ชีวิตของเรา
ให้มีความสุขมากขึ้น...
ให้ดีงาม ....
และสวยงามยิ่งขึ้น ....

ขอจงมีความสุข กับโอกาส...
และกระบวนการสร้างสรรค์ชีวิตให้สวยงาม ฯ


๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๔