ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2559

เก่ง-ดี-มีความสามารถ : กลอนคติสอนใจ



เก่ง-ดี-มีความสามารถ : กลอนคติสอนใจ

    คนเราจะ ประสบความ สำเร็จได้.............ด้วยอาศัย อัตตา สามารถสรรค์
ประวัติศาสตร์ ชาติชน จนปัจจุบัน................พัฒนากัน เพราะฉกาจ สามารถมี

    ความเจริญ จะจรรโลง คงอยู่ล้ำ..............ต้องอาศัย คุณธรรม สัมมาศีล์
ผู้นำพา ไผท รอง จะต้องมี.........................คุณความดี ที่ประเสริฐ ประสิทธา(รอง=งามสุกใส)

    มีความรู้-ทักษะ-ความสามารถ................ใจองอาจ กล้าหาญ แก้ปัญหา
พร้อมไหวพริบ ปฏิภาณ แลปัญญา...............จึงชื่อว่า คนเก่ง ชนเกรงใจ

    ปัจจัยหลัก ผลักดัน ชีวันดล....................ประสบความ สำเร็จค้น จนยิ่งใหญ่
วาสนา-สุขภาพ สำทับใคร..........................ก้าวหน้าไกล ไปกว่า สามัญชน

    สถาบัน การศึกษา-ฐานะด้วย...................พรรคพวกช่วย หนุนชัย ไขว่คว้าผล
(สรุป)แต่ปัจจัย สำคัญ นั้นคือตน..................ต้องเป็นคน เก่ง-ดี-มีศักยา(ศักย-=สามารถ)

    เจ้านายดึง ลูกน้องดัน สักวันเด่น..............ตำแหน่งใหญ่ ได้เป็น เห็นดื่นหนา
ประสบชัย ในชีวิต(ส่วนตัว) พิจารณา.............แต่โลกา หาได้ ผลใดดี

    เห็นแก่ตน หนทาง(ยอดนิยม) สร้างความสุข....แต่สุดท้าย (มัก)ให้ทุกข์ แก่โลกนี้
ผู้นำพา สุขผอง ส้องปัถพี............................ต้องไม่มี จุดเด่น เห็นแก่ตัว

    เพียงสุขเรา เท่านั้น ที่มั่นมุ่ง......................ค่านิยมยุ่ง ขยาย แพร่หลายทั่ว
พึ่งกลยุทธ์ ทุจริต ผิดเมามัว..........................เพื่อจองเดช เจตน์ชั่ว น่ากลัวเอยฯ

๓๐ เมษายน ๒๕๕๙

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2559

บทเพลงที่กังวานในใจก่อนตื่นนอนตอนรุ่งสาง : กลอนฉันทลักษณ์เสรี



บทเพลงที่กังวานในใจก่อนตื่นนอนตอนรุ่งสาง : กลอนฉันทลักษณ์เสรี

    ชีวิต คิดมากทำไม?......................สิ่งใด ในชีวิตนี้
อยากได้ ถ้าได้ก็ดี............................ไม่มี มิมาเสียใจ

    เกิดมา ล้วนมาแต่ตัว......................ครอบครัว เลือกได้ที่ไหน?
ปรารถนา นานา-มากมาย....................ตายไป ติดอะไรไปฤา?

    ความรัก มักไม่คงทน......................กระมล ของคนเคลื่อนไหว
พบคน ไม่พ้นถูกใจ............................พบใหม่ ชอบใจโลเล

    ความรู้ ควรคู่ความจริง.....................สรรพสิ่ง เป็นจริงที่ไหน?
หลากอย่าง หลั่งมาลวงใจ...................คิดได้ เมื่อสายหลายมี

    ความคิด วิจิตรมากมาย....................ส่วนใหญ่ ไร้สาระลี้
ฟุ้งซ่าน พล่านรสโลกีย์.........................ต้องมี ศีลธรรมนำใจ

    มีปาก เมื่ออยากจะพูด......................ควรหยุด ปุจฉา..ชั่วไหม?
พูดมาก ลำบากทำไม?.........................พูดไป ที่ให้ทุเลา

    สองมือ ใจคือผู้สั่ง............................ใจสั่ง จึงย่างสองเท้า
ใจหรือ ก็คือใจเรา................................ใจเขา สั่งเราเมื่อใด?

    ชีวิต คือกิจกรรม...............................เช้า-ค่ำ อย่าทำเหลวไหล
(เมื่อ)รู้ตัว ตัวก็แก่ไกล...........................มากมาย ตายไม่รู้ตัวฯ

๒๙ เมษายน ๒๕๕๙

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2559

ความถูกต้องของจิตสำนึก : กลอนสิ่งแวดล้อม(กลอนแปด)



ความถูกต้องของจิตสำนึก : กลอนแปด

    ป่าต้นน้ำ ตามนี้ ที่ปรากฏ...................เหี้ยนเตียนหมด หดหู่ ดูไม่เห็น
กลุ่มควัน-ไฟ ไหม้ตอ ก็ยังเป็น................ภาพแฝงเร้น เฟ้นหา สาเหตุการณ์

    ใยจึงร้อน ร้อนจน ทนไม่ไหว?.............ห้วยหนองน้ำ ทำไม เหือดละหาน?
พืชผักผล ไม้แพง แล้งกันดาร.................ยืนต้นตาย วายปราณ นั้นเหตุใด?

    เพราะคนผูก รุกราน เผาผลาญป่า.........บ่ได้มี ทีท่า จะหยุดไม่
รัฐบาลยก (ให้)ทำกิน แผ่นดินไกร............เท่าให้ท้าย ให้ทำ ตามจิตปอง

    ต้นเหตุทุก ปัญหา มักมาจาก................คนไม่อยาก กระทำ ตาม(ความ)ถูกต้อง
คอยคดคิด จิตไถย ไพร่ครรลอง...............คืออุปสรรค ขวากข้อง มุมมองคน

    แก้ไขยาก หากใจ ไม่ยอมรับ................มิเปลี่ยนปรับ ไปทาง สร้างกุศล
ความยึดติด คิดแต่ เห็นแก่ตน...................จึงทำให้ ไม่พ้น หนทางพาล

    เสียงเรียกร้อง หาความ มีสำนึก.............เฉกหยาดฝน ชนตึก มิสึกสาน
คนส่วนใหญ่ ยังคง หลงสำราญ..................สนุกสนาน หรรษา หา ตริตรอง

    สิ่งแวดล้อม ข่าวสาร ช่างมันก่อน............ดูละคร ดีกว่า สุขสนอง
ติดตามเหล่า ดารา บ้านักร้อง.....................เริงกว่าซ้อง โลกา สถานการณ์

    หาประโยชน์ ให้ตน สนใจกว่า.................เสียสละ ปราโมทย์ ไม่โปรดขาน
เรื่องรักษ์โลก รกตา น่ารำคาญ....................สุขกับการ ผลาญโลก บริโภคเพลินฯ

๒๘ เมษายน ๒๕๕๙

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2559

รักจริงไม่ใช่สิ่งสามัญ : กาพย์ฉบัง๑๖



รักจริงไม่ใช่สิ่งสามัญ : กาพย์ฉบัง๑๖

    ทุกๆนาทีมีคนมัก.................สำรอกบอกรัก
มิพักมิเพียงเสียงประสงค์

    จิตใจของใครมั่นคง.................มโนธรรมดำรง
ประจงประจาค รัก+หวังดี(ประจาค=ให้)

    เฝ้าคอยเมตตาอารี..................ไม่หน่ายไม่หนี
ไม่มีไม่เมินประเชิญหา

    มองคนรักมากคุณค่า................อาจเสมอชีวา
อุราอุไรใฝ่พะนอ

    มีรักมอบให้ไม่เคยพอ.................ไม่ต้องร้องขอ
ก็ยอก็ยื่นให้รื่นสม

    (เพื่อ)คนรักเริงร่าสุขารมณ์................แม้ตนต้องตรม
ก็ยอมก็กล้าก้มหน้ากรุย

    อุปสรรคหนักเนา(กลาย)เบาปุย.................นุ่นผ่านฉลุย
เป็นผุยเป็นผงส่งเสริมศานติ์

    ความเสียสละปฏิญาณ.................มิพึ่งมิผ่าน
อุทานอุเทศเจตนา(อุเทศ=ยกขึ้นแสดง)

    ต้องมี(อย่าง)มั่นคงตรง มนา................อยู่ติดจิตรา(จิตร=จิต)
บ่ได้ไปหามาจากไหน

    รักที่เป็นสิ่งจริงใจ..................นั้นช่างไม่ใช่
หาง่ายหาง่านสามัญเอยฯ

๒๗ เมษายน ๒๕๕๙

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2559

เดนดินแดน : กลอนสิ่งแวดล้อม(กาพย์ยานี๑๑)



เดนดินแดน : กลอนสิ่งแวดล้อม(กาพย์ยานี๑๑)

    หมดแรง แสงแดดร้อน....................สาดสะท้อน เข้าคูหา
แมวหอบ หมอบกายา.........................ทีท่าทำ เหนื่อยลำเค็ญ

    เก็บกาย แต่ในบ้าน.........................โดนแดดหาญ พานพาธเห็น
ร้อนเร่า เท่าที่เป็น...............................อุณหภูมิเช่น ทะเลทราย

    บุกรุก ป่าไม้ล้น...............................อ้างว่าตน ยากจนหลาย
ต้นน้ำ ตัดทำลาย................................ความเสียหาย สยายทวี

    ยากจน ย่อมพ้นผิด?.........................คือความคิด วิปริตวิถี
ที่ทำ กินไม่มี......................................คือสิทธิ ทำลายพนา?

    ทุจริต ครองจิตใจ............................สาเหตุใหญ่ สร้างปัญหา
คดโกง คงอุรา....................................คือโฉดช้า ประชาชน

    ปล่อยให้ ป่าไม้เหี้ยน........................ย่อมแปลงเปลี่ยน ถึงฟ้าฝน
หน้าแล้ง แห้งแล้งจน............................ผักพืชผล ยืนต้นตาย

    หน้าน้ำ น้ำโถมท่วม...........................ทุกคนร่วม รับเสียหาย
เศรษฐกิจ วิกฤติกลาย............................ขืนดูดาย ตายทั้งเป็น

    (จนท.)หน้าที่ มี(แต่)ไม่ทำ..................ร่วมเติมซ้ำ ทุจริตเห็น
ป่าไม้ เมื่อไร้เร้น....................................ไทยจะเป็น เดนดินแดนฯ

๒๖ เมษายน ๒๕๕๙

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559

หายนภัยมาถึงแล้ว : กลอนสิ่งแวดล้อม


                                  น้ำตาตก! ลำไยลำพูนแห้งตายแล้วนับหมื่นต้น บ่อบาดาล แม่น้ำลำคลองขอดก้น 
                                                  From <http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000041462



หายนภัยมาถึงแล้ว : กลอนคติเตือนใจ

    เงาะโรงเรียน โลฯหกสิบ..................ไม่กล้าหยิบ กลัวซื้อหา
ตั้งแต่เกิด เป็นคน(ไทย)มา..................นี่คือราคา เงาะหรือไร?

    ทุเรียนโลฯ ละหนึ่งร้อย....................ขอล่าถอย รับไม่ไหว
มะนาวแล้ง แพงบรรลัย.......................ทุพภิกขภัย เริ่มพันผูก

    คนจนจำ กินแอ๊ปเปิ้ล......................จากจีนเพิ่ล ราคาถูก
ผลไม้ไทย แทบไร้ลูก..........................ปลูกล้มตาย พิษภัยแล้ง

    อนาถนัก ชักฉุกจิต..........................เกิดวิปริต ทุกหัวระแหง
สิ่งแวดล้อม กรอมจำแลง......................ทุกหนแห่ง ถึงแดนไกล

    น้ำมีปลา นามีข้าว............................คือคำกล่าว เท็จแล้วไฉน?
ป่าถูกเถือ ไม่เหลืออะไร........................แผ่นดินไทย ใกล้พิการ

    คนส่วนใหญ่ (เป็น)เกษตรกร...............เมื่อโลกร้อน บั่นทอนผลาญ
ฝนไม่ตก ตามฤดูกาล............................ข้าวปลาอาหาร ย่อมขาดแคลน

    มีแต่ดิน กินไม่ได้..............................ผลผลิตไร้ ลำบากแสน
เงินไม่มี ขายที่แทน...............................ให้ต่างแดน ครองแทนไทย?

    สิ้นแผ่นดิน ย้ายกินอยู่.........................กลายเป็นสู่ ผู้ยากไร้
ไม่อยากเห็น (ต้อง)ทำเช่นไร?..................ฟื้นป่าไห้ ทันกาลเทอญฯ

๒๕ เมษายน ๒๕๕๙

ลำพูน - ปัญหาแย่งน้ำปิงระหว่างชาวป่าซางลำพูน-ชาวดอยหล่อ เชียงใหม่ ยังไม่จบ หลังยกพวกประท้วงกัน 2 วันติด ขัดแย้งแรงถึงขั้นขู่เผา ยิงกัน จนทหารต้องเข้าห้ามทัพ พร้อมนัดเคลียร์กันพรุ่งนี้ (25 เม.ย.) อีกรอบ เผยคนประท้วงเดือดร้อนเรื่องน้ำกินน้ำใช้ ขณะที่ชาวสวนใช้แบ็กโฮขุดร่องดึงน้ำปิงเข้าสวนมะม่วง

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

ชั่ว-ดี วิถีทาง : กลอนเปล่า



ชั่ว-ดี วิถีทาง : กลอนเปล่า

    คนที่คบคนชั่วได้ หาใช่คนดี
คนมีปัญญา ก็มีปัญหาที่แก้ไม่ไหว
สมบัติที่อยู่คู่อัตตาเป็นนิจ คือจิตใจ
หากพึ่งตัวเองไม่ได้ ก็อย่าหมายพึ่งใครอื่นเลย

    คนส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิด
คิดว่าการเป็นคนดี สิต้องคบหา
ทั้งคนดี-คนชั่ว-คนมีศีลธรรม-คนต่ำช้าฯลฯ
แต่พุทธองค์ทรงลั่นวาจา 
ว่า "จงบูชาคนที่ควรบูชา และอย่าคบคนพาล"

    ผู้มีปัญญา ก็หาไร้ซึ่งเวรกรรม
บาปสนองให้จองจำ ผจญกับอุปสรรคขวากหนาม
กระทบกับความทุกข์โศกวิโยคไห้
จนไร้ปัญญาจะฝ่าฟัน
ผู้ฉลาดจึงไม่พึงก่อเวรกรรม์
เบียดเบียนใครทั้งนั้น ทุกวันคืน

    ทำชั่วย่อมได้ชั่ว ทำตัวดีย่อมได้ดี
คนที่กลัวและละอายในบาป
ย่อมกำราบเหตุแห่งทุกข์เข็ญ
คนที่รักและภักดีต่อกุศล
ย่อมอดทนรักษาศีลธรรมบำเพ็ญ
แยกแยะคนชั่วออกจากคนดีจึงมิยากเย็น
สังเกตเห็นได้ ในพฤติกรรมนำพา

    คนมักเมามาย ในลาภยศสรรเสริญ
เพลิดเพลินกับปฏิสัมพันธ์ ระหว่างบรรดาญาติมิตรสหาย
คิดว่าเป็นสมบัติส่วนตน จนแม้กระทั่งร่างกาย
หากแต่เมื่อลมปราณลาญสลาย
จิตวิญญาณออกจากร่างไป
จะเข้าใจว่า อะไรที่เป็นสมบัติส่วนตัวที่แท้จริง?

    เด็กทารกเกิดมา ก็ต้องพึ่งพาพ่อแม่
แต่ด้วยพัฒนาการ แห่งทักษะ-ความสามารถ-ความรู้ฯลฯสู่สรรพสิ่ง
ทุกเวลา-สถานที่ ไม่อาจมีพ่อแม่ให้พึ่งพิง
ศัตรู-อุปสรรค-ปัญหาสารพัดมีไม่ขาด จึงมิอาจหยุดนิ่ง
ต้องไม่ทอดทิ้ง หนทางที่จะพึ่งพาตนเอง

    วิถีทางที่ดี ย่อมมีแสงสว่าง
แตกต่างจากวิถีชั่ว ที่มืดมัวอยู่ทุกหัวระแหง
มองดูด้วยจิตใจ ไม่ใช่แค่ใช้สายตาจึงจะแสดง
ความมีวาสนาของคน จึงดลใจให้เห็นแจ้ง
มิใช่การกลั่นแกล้ง จากทวยเทพเทวาฯ

๒๔ เมษายน ๒๕๕๙

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559

ร้อนรัก : กลอนเจ็ด



ร้อนรัก : กลอนเจ็ด

    ธรรมชาติ ของคน ล้นลึกหลาก.................ใคร่อยาก รักปอง ร่ำร้องหา
ตามแต่ แดถวิล ดลจินดา............................ไม่พร่ำ นำพา หลักศีลธรรม

    กระแส กระสัน ผลักดันจิต........................ประดิษฐ์ ประดอย คอยโลภล้ำ
อารมณ์ อารักษ์ มิพักพรำ.............................ราคะ ล่าค้ำ ลุกลามไคล

    บรรลุ อุปธิ กามกิเลส...............................สาเหตุ ตัณหา รักคาไขว่
ไม่อิ่ม ไม่หนำ สำราญฤทัย............................ไม่สา แก่ใจ ไม่หยุดปลง

    บ่ สวา มิภักดิ์ หลักศาสนา.........................ย่อมไม่ เลิกรา ความประสงค์
รักมอง ลองใหม่ ไหลพะวง............................ลุ่มหลง สถิต ติดตรึงไตร(ไตร=ไกร)

    เมื่อมิ ยึดถือ ความซื่อสัตย์.........................ยืนหยัด ศรัทธา มโนศรัย(ศรัย=อาศัย)
ความรัก จักเห็น เช่นอะไร?............................ถ้าหาก ไม่ใช่ สาไถยทำ

    มานผอง ต้องมี จริยวัตร...............................ผูกมัด อัตตา อุราถัมภ์(ถัมภ์=หลัก)
เสมือนเกราะ เสาะกรอง ป้องกันกรรม...............มิถลา ถลำ ตามสันดาน

    รำลึก ศึกษา สุภาษิต...................................ปักจิต ปิดใจ ไกรแก่นสาร
ควบคุม กุมตรอง ความต้องการ.......................อย่าพาล อย่าไพร่ ให้บันเทิง

    คงรัก คงเป็น ประเด็นทุกข์.............................ความสุข คงไส ไร้เถลิง
ตราบเท่า ที่ใจ ยังป่ายเปิง..............................ระเริง ราคิน มลทินควานฯ

๒๓ เมษายน ๒๕๕๙

วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

วันร้อน : กลอนคติเตือนใจ

https://www.flickr.com/photos/134623686@N02/26474381061/in/dateposted-public/


วันร้อน : กลอนคติเตือนใจ

    ดอกอิน ทนิลน้ำ......................ม่วงล้ำ งามงด สดใส
ตัดสี ขจีใบ................................พิไล ในฤดู คิมหันต์
ผ่อนคลาย ความร้อน...................ลดทอน รอนพง ลงพลัน
โสภี สีสัน..................................อัศจรรย์ บรรลุ อุรา

    พิรุณ หลั่งไหล........................ทำให้ พสุธา อากาศเย็น
อุณหภูมิ เมฆเห็น.........................ติดลบเป็น หลายสิบ องศา
กลั่นตัว กลายน้ำ..........................นำ(ความ)เย็น เอ็นดู โลกา
ที่ประจัญ ปัญหา..........................ไฟป่า น้ำท่า ขาดแคลน

    (เหตุที่)ต้องตก ระกำ.................ล้วนเป็น เพราะน้ำ มือมนุษย์
ทำลาย ไม่หยุด............................ไม่สุด ไม่สิ้น ดินแผ่น
หากเป็น ไปได้.............................จักรวาล ยังใคร่ ครองแทน
สันดาน สานแก่น..........................แน่นแฟ้น มนา ทรชน

    ถ้ายัง คงเห็น............................กิเลสเป็น ภาวะ ปกติ
อุ้มชู อุปธิ....................................ดำริ แต่เรื่อง อกุศล
คงไม่ ทันแน่.................................คงไร้ ทางแก้ กระแสกล
โลกร้อน เร่ารน..............................ทุกข์ท้น ธานี วิบูล(วิบูล=กว้างขวาง,มาก)

    ตัวใคร ตัวมัน.............................พาถึง ทางตัน ขันคับ
ความไม่ สดับ................................แส่สรรพ อัประมาณ ผลาญสูญ
ความไร้ สำนึก...............................รู้สึก แต่กระสัน พาลพูน
หาได้ เกื้อกูล.................................แต่สิพา อาดูร ทูนทวีฯ

๒๒ เมษายน ๒๕๕๙

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559

ลมแล้ง : กาพย์ยานี๑๑

https://www.flickr.com/photos/134623686@N02/25934420644/in/dateposted-public/


ลมแล้ง : กาพย์ยานี๑๑

    ลมแล้ง ต้านแรงลม.................ร้อนระดม เดือนเมษาฯ
ดอกรก ดกดื่นตา........................ห้อยระย้า ลำยองใย

    (สี)เหลืองอ่อน ร้อนรำงับ..........กลีบกลมขับ ลำดับไข
โปรยพลิ้ว ปลิวพรายไป................ในกระสินธุ์ จินตนาการ

    ความร้อน คลายทอนลด............ใบเขียวสด บดบังศานติ์
นิ่งหยุด สะดุดกาล........................มานดำริ นิรันดร

    แล้งโหม ลมหายใจ...................หันลูบไล้ ให้เกสร(หัน=หมุน)
สืบผสม อุดมพร............................เมล็ดพันธุ์ แพร่อำไพ

    นรา คราคับขัน..........................จิตตั้งมั่น มิหวั่นไหว
สติกล้า ปัญญาไกร........................ไม่ตระหนก ตกกระมล

    (แม้)ลำเค็ญ มิเร้นคิด...................เมตตาจิต อิฏฐกุศล(อิฏฐ-=น่าปรารถนา)
เชือนแช (การ)เห็นแก่ตน.................บังคลแบ่ง แข็งแกร่งปัน(บังคล=มอบให้)

    ความอด รันทดอยาก...................ความลำบาก จักแปรผัน
(เพราะ)ช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อกัน............และกันข้าม ยากลำเค็ญ

    (เมื่อ)คนปราด สามารถเปลี่ยน.......โลกกระเสียร เจียนจรัสเห็น(กระเสียร=ฝืดเคือง)
ขับเคลื่อน เสมือนดั่งเป็น...................ร่วมครอบครัว รั้วเดียวกันฯ

๒๑ เมษายน ๒๕๕๙

ลมแล้ง=ราชพฤกษ์

วันพุธที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2559

ให้รางวัลตนเอง : กาพย์ฉบัง๑๖



ให้รางวัลตนเอง : กาพย์ฉบัง๑๖

    ใบไม้ร่วงพลิ้วปลิวหล่น................เมื่อพายุฝน
พัดจนพฤกษ์สัณฑ์หวั่นไหว

    ห่าฝนสาดมาคราใด...............เสียงสนั่นพรั่นใจ
หลังคาคล้ายใคร่โผบิน

    ร้อนพลันบรรเทาเบาสิ้น................ระอุไร้คลายจินต์
แผ่นดินชุ่มฉ่ำน้ำนอง

    ไม่ช้าฝนซาสุดผยอง................ลำนำทำนอง
เตือนอย่าลำพองดวงใจ

    พรุ่งนี้เช้าเร่าร้อนใหม่...............แสงแดดแผดไกร
น้ำระเหยไร้ไวปาน

    เหมือนยามสำเร็จเสร็จงาน................แสนสนุกสนาน
อยากมอบรางวัลปันชีวี

    ใช้เงินเพลิดเพลินวิถี................สังคมโลกีย์
เปรมปรีดิ์สุขีกมล

    กิน-เที่ยว-ซื้อสินค้าขน................ตอบแทนที่ตน
อดทนอุตส่าห์พยายาม

    เงินมลายหายไปตาม................มุ่งบริโภคกาม
ขาดความรื้นยั่งยืนยาว

    หากวิจิตรพิศเพริศพราว................ทำบุญหนุนน้าว
ทานแก่ชาวทุกข์ยากเข็ญ

    เปลี่ยนเงินไซร้ให้กลายเป็น................บุญงามบำเพ็ญ
เช่นเสบียงชาติหน้าอาศัย

    สรรสร้างรางวัลอันใด.................วิเศษเหตุให้
ได้ผลตนเลิศประเสริฐการ?

๒๐ เมษายน ๒๕๕๙

วันอังคารที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2559

ข้อแก้ตัว : กาพย์ยานี๑๑



ข้อแก้ตัว : กาพย์ยานี๑๑

    ข้ออ้าง เข้าข้างตน..................แจงเหตุผล จนทำชั่ว
หาใช่ ใจเมามัว..........................หัวคิดโฉด โคตรโง่งม

    รู้เท่า ไม่ถึงการณ์.................ถ้อยมาตรฐาน ท่องกันขรม
แก้ตัว กลัวตรอมตรม...................หากก้มหน้า สารภาพไป

    อับจน หนทางเลือก...............คำกลิ้งเกลือก กลอกเหลวไหล
(ของ)ผู้ที่ มีจิตใจ.........................สาไถยถ่อย คล้อยบาปจำ

    หากใคร นิสัยดี.........................ย่อมจะมี วิถีล้ำ
ให้เถือก ให้เลือกทำ......................ตามโอกาส เอื้ออำนวย(เถือก=ดาษไป,ทั่วไป)

    ยากจน จึงทุจริต.....................อย่าครุ่นคิด แค่ฉาบฉวย
ใจจด จ้องคดด้วย.........................จึงเอออวย ช่วยประดัง

    เพราะรัก ถึงทำร้าย..................คำอ้างคล้าย คารมขลัง
(ที่แท้)รักตน คนอื่นชัง....................(จึง)บังตาให้ ฆ่าวายปราณ

    ถูก(เขาล่อ)หลอก จึงนอกใจ.......คือเงื่อนไข ให้แค่นขาน
แม้นตน ไม่ต้องการ.........................จะสามานย์ ได้ลงคอ?

    ระยำ (เพราะ)ทำตามเขา..............หนักเป็นเบา โทษกล่าวขอ
เหตุผล หาพ้นพอ............................การก่อกรรม เจตจำนง

    มิทำ ชั่วก็ได้ ...............................เมื่อหัวใจ ไม่ประสงค์
จิตใจ ใครมั่นคง...............................เจาะจงแต่ หยุดแก้ตัวฯ

๑๙ เมษายน ๒๕๕๙

วันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2559

เทศกาลสงกรานต์/สงคราม : กลอนแปด




เทศกาลสงกรานต์/สงคราม กลอนแปด

    วันสงกรานต์ ผ่านไป ให้สาระ................ทั้งที่จะ ไม่มี น้ำสิเหลือ
คนล้นหลั่ง คลั่งเล่น เช่นไม่เชื่อ..................สาดน้ำ(ทิ้ง)เพื่อ สุขสันติ์ บันเทิงจินต์

    ขับรถยนต์ ขนน้ำ ตามก้นถี่....................ไม่นับที่ ปะแป้ง แปลงถวิล
เปิดเพลงเต้น เป็นบ้า ดัง(อึกทึก)ชาชิน.........ตั้งวงเหล้า เมาปลิ้น เหิมวิญญาณ์

    จราจร จลาจล คนทิ้งกฎ........................หยุดจอดรถ(กลางถนน)เล่นน้ำ ตามปรารถนา
ไฟเขียว-แดง แผลงสี มินำพา......................เมื่อตัวข้า ใคร่ทำ กันตามใจ

    เขาไปทำ ธุระ ยังสิสาด..........................เป็นวาระ(สาดน้ำ) แห่งชาติ หรือไฉน?
(กู)อยากจะสาด น้ำทิ้ง จะทำไม?..................ขืนมีใคร มาห้าม ตามด่าทอ

    ปราศแก่นสาร การเล่น เกณฑ์สาระ............(หญิง)กระสันจะ แต่งตัว ยั่วยวนหนอ
ชายปะแป้ง แผลงไพล่ ไม่เพียงพอ................ลวนลามต่อ ก่อเรื่อง เนื่องราคี

    ยังอีกพวก อันธพาล ชาญวิวาท.................เรื่องมารยาท ไม่สน รนวิถี
ชอบก่อกวน ชวนกร่อย ชกต่อยตี....................ถึงขั้นที่ รี่ฟัน ฆ่ากันตาย

    พอจะรู้ ว่าร้อน สะท้อนจิต.........................แต่ลองคิด สาดน้ำ ๓ วันหาย(ร้อน)?
เมื่อสงกรานต์ ผ่านพ้น (ยิ่ง)กระวนกระวาย.........อากาศร้อน เหลือหลาย หมายกว่าเดิม

    (ค่านิยม)รักปล่อยตัว ปล่อยใจ ไร้สาระ.........นับวันจะ แพร่ขยาย มากมายเพิ่ม
โรงพยาบาล ล้น(คน)ไข้ ไหลหลั่งเติม..............ยังส่งเสริม ต่างชาติ มาสาด(น้ำ)กันฯ

๑๘ เมษายน ๒๕๕๙

2หนุ่มรุมสกรัมนักท่องเที่ยว อ้างเมาฉุนเดินชนสงกรานต์
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/regional/392195


สงกรานต์อุบลฯ ใช้น้ำกว่า 262 ล้านลิตร รถไฟเสริมทั้งขบวนและตู้โดยสารรับคลื่นมนุษย์

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9590000038937

คสช.ยึดรถเมาขับ 8 วัน 5,772 คัน

http://www.posttoday.com/social/general/427006


http://www.naewna.com/local/211836

สุดเศร้า!อดีตแข้งยาสูบโดนลูกหลงเหตุวิวาทเสียชีวิต

www.siamsport.co.th/Sport_Football/160416_108.html


ภัยแล้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยาวนานกว่าที่เคยเป็น

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2559

ทางเลือก : กาพย์สุรางคนางค์๓๒

                               https://www.flickr.com/photos/134623686@N02/26416352816/in/dateposted-public/

ทางเลือก : กาพย์สุรางคนางค์๓๒

    นานา อาหาร....................หลากลาน ให้เลือก
ผลไม้ มีเปลือก...................กระเดือกกิน สิ้นไหม?
ดำเนิน ชีวิต.......................ควรคิด กว้าง-ไกล
มักง่าย ไม่ใช่.....................ทางให้ ประนอม

    ชีวี ต้องเลือก....................กระเสือก กระสน
เกิดมา เป็นคน....................ประจญ แวดล้อม
จะขืน จะขัด........................(หรือ)จะหยัด จะยอม?
สู้ความ ไม่พร้อม..................แห่ห้อม กรอมกรม

    เหตุการณ์ ดาลดล..............ให้หน ทางเห็น
บ่อยคร่ำ ลำเค็ญ..................เร้นร้าง ทางสม
จากข้อ จำกัด......................อัตตา ประปม
อุระ ค่านิยม.........................ทับถม งมงาย

    ความรู้ ต้องมี......................สิ่งใด ดี-ชั่ว
ถูก-ผิด ปลิดมัว-....................เมาทั่ว มั่นหมาย
บัดสี-ประเสริฐ.......................บรรเจิด-มลายฯลฯ
แบ่งแยก แปลกหลาย.............ดี-ร้าย ป่ายปอง

    คนไม่ รู้จัก..........................ตระหนัก ชั่ว-ดี
จะประจญ วิถี........................อัปรี ยะสนอง
คนโง่ งี่เง่า...........................มัวเมา เขลาครอง
ชีวา จะต้อง..........................เศร้าหมอง เสื่อมทราม

    ส่วนผู้ รู้จัก..........................รักษา กุศล
พัฒนา กระมล.......................พ้นเรื่อง เลวหลาม
สุจริต กิจจา..........................อุตส่าห์ พยายาม
หมดจด งดงาม......................ทางข้าม อร่ามเอยฯ

๑๗ เมษายน ๒๕๕๙

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

หมาเทวดา : กลอนหก



หมาเทวดา : กลอนหก

    แสนทันสมัย ไทยก็มี.......................กฎหมายที่ คุ้มครองหมา
(กลุ่มรักหมา)ต่างสดับ คอยจับตา...........พวกชั่วช้า โฉดทรชน

    (ใคร)รังแกหมา พร้อมด่าแช่ง............รวมตัวแจ้ง ตำรวจค้น
ออกหมายขับ จับกุมคน........................ที่สุดจน ดำเนินคดี

    แต่ใครถ้า ถูกหมากัด........................คนรักสัตว์ ปัดป้องหนี
อ้างว่าหมา ปัญญาไม่มี.........................อย่าเซ้าซี้ จี้ใจดำ

    หมาเป็นภัย ใครก็รู้...........................ต้องการผู้ คอยอุปถัมภ์
ไล่กัด(คน)เห็น เป็นประจำ.....................เห่าเช้า-ค่ำ ชวนรำคาญ

    คิดจะรัก พิทักษ์หมา.........................สมควรหา อุปการะหาญ
ที่อยู่จัด สมสัตว์บาล.............................อย่าปล่อยปาน เป็น(หมา)เทวดา

    จงทำจิต คิดคล้ายคน........................อย่าสับสน จนเหมือนหมา
สังคมคน คนสร้างมา.............................เพื่อชีวา สาธารณชน

    ใครเลี้ยงหมา อย่าปละปล่อย...............ต้องเฝ้าคอย คุมทุกหน
มีปลอกคอ สายจูงจน(กระทั่ง).................ชื่อ-ที่อยู่คน เจ้าของมัน

    รับผิดชอบ ความเสียหาย.....................(หาก)หมาทำร้าย ใครกวดขัน
เป็นคนดี มีศีลธรรม์................................พึงป้องกัน ภยันตราย

    คน(เลี้ยงหมา)ควรมี วุฒิภาวะ................(ต้อง)รับภาระ ตามกฎหมาย
หากเลี้ยงหมา พา(สังคม)วุ่นวาย................ก็อย่าหมาย มีหมา(เลี้ยง)เลยฯ

๑๖ เมษายน ๒๕๕๙

เซ็ง!หมากัดหมู31ตัวตายฟรี พบเป็นหมาวัด ไร้เจ้าของเรียกเงินไม่ได้ http://www.dailynews.co.th/regional/392254