ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ต้นสายปลายเหตุ : กลอนเปล่า



ต้นสายปลายเหตุ : กลอนเปล่า

   ทุกสิ่งที่เราผจญ
เหตุการณ์-ผู้คน
ล้วนแล้วแต่เป็นผลของกรรมเวร

    ทุกสิ่งที่เรามี
ชะตาชีวีที่เราเป็น
ความสุขสบาย ความเสียหาย หรือความลำบากยากเข็ญ
ปัจจัยมากมีที่ซ่อนเร้น
ยิ่งกว่าสิ่งที่เห็น ที่รับรู้

    เวรกรรมของเรา
เวรกรรมของเขา
ถูกคละเคล้าเอามาเล่าสู่
เป็นเรื่องราวเบ้ารวมชะตากรรม
ปฏิสัมพันธ์ต่อกันและกันอยู่
อาจเป็นเพียงชั่วครู่
หรือพันตูเนิ่นนาน จวบจนวันวาย

    ไม่ว่ามิตรหรือศัตรู
ไม่ว่าคู่ครองหรือผองผู้ร้าย
ต่างมีเวรกรรมนำมาซึ่งต้นสาย
และปลายเหตุแห่งเวทนาปรารมภ์

     เสมือนหนึ่งเป็นผู้ชักใย
ดูคล้ายถูกบงการประสานประสม
สิ่งที่ตั้งใจกระทำและอะไรที่จำยอมกรอมกรม
ความสมหวัง-พลาดหวัง
ความฉลาด-โง่งม
โดยชะตากรรมตามผูกไว้ให้เป็นปม
เที่ยวตะบมรับเอาเคราะห์กรรมต่อไป

    สุดวิสัยที่จะล่วงรู้ว่าอะไรคือต้นสาย
อะไรเป็นปลายเหตุ
แต่การตัดใจไม่ก่อกรรมทำเวร
จะเป็นหนทางตัดเวรตัดกรรมให้สิ้นสุดหยุดดำเนิน
มิต้องเผชิญชะตากรรมไปตลอดกาล ฯ

๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น