ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เอาการเอางาน : กาพย์ฉบัง ๑๖



เอาการเอางาน : กาพย์ฉบัง ๑๖

      ใต้เมฆาสีฟ้าอ่อน................ดวงสุริยนยอน
โคจรจากพื้นฟื้นอรุณ

      แสงทองส่องฟ้างามละมุน..............ดูคล้ายวัยดรุณ
สมบูรณ์อุ่นจิตพิศไสว

      ขอบเมฆสีทองรองไร...............ลอยล้ำอำไพ
ผ่องใสไม่คลาทิพากร

      ปักษีปรีดามิอาวรณ์................บรรเลงเพลงจร
สังสรรค์สโมสรก่อนหากิน

      อุตส่าห์หาเลี้ยงชีวิน...............บินไปไกลถิ่น
ไม่หมิ่นเหนื่อยยากลำบากหา

      ยังคงดำรงวิริยา................ไม่คร้านมารยา
ฟันฝ่ามานะอดทน

      ตื่นเช้าเฝ้ารอสุริยน.............ชีวินดิ้นรน
จวบจนสนทยามาเยือน

      ทุกวันไม่ครั่นคลอนเคลื่อน..................ผ่านดายกรายเดือน
จนเลื่อนเป็นปีมิปรวนแปร

      ไม่ต้องจ้องจับผิดแจ..................บ้าบอตอแย
ไม่แม้แต่พบหลบงาน

      เป็นคนอย่าฉลมนมาน.................ทะเยอทะยาน
เอาการงานก่อมิย่อเอย ฯ

๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

ไม่มีดอกไม้ ที่ไร้รอยด่าง : วิชชุมมาลาฉันท์ ๘



ไม่มีดอกไม้ ที่ไร้รอยด่าง : วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
(ละเลยฉันทลักษณ์)

      ไม่มี ดอกไม้ .............ที่ไร้ รอยด่าง
กลีบขอบ บอบบาง............ท่ามกลาง พนาศัย
ดินฟ้า อากาศ..................ธรรมชาติ กว้างไกล
ลมวน ฝนไหว..................ไม่แน่ ไม่นอน

      ดอกตูม อูมเต่ง...........บานเบ่ง ลำดับ
กลีบซ้อน ย้อนซับ.............ถูกพับ ทับผ่อน
บรรจง บรรจบ...................แทรกซบ ทบทอน
วิญญาณ์ อาทร.................ก่อนเบ่ง เปล่งบาน

      โดนแผด แดดเผา........กลีบเบา เร่าร้อน
น้ำเลี้ยง เพี้ยงพร................พ้นผ่อน ร้อนผ่าน
สูรย์ส่อง ผ่องสี..................โสภี มีพาน
เติบใหญ่ ไต่ต้าน................ตามกาล เวลา

      ลมฟ้า มรสุม...............โชกชุ่ม ลุ่มฝน
สาดจัด ซัดจน...................กิ่งต้น ใบถลา
แทกรึ้ง ทึ้งเร้า...................แทบเฉา ชีวา
ก้านรอน อ่อนล้า................ลมคลา ฝนไคล

      แมลงสัตว์ กัดกิน.........กลีบวิ่น บิ่นแหว่ง
มั่นคง ไม่แคลง.................ตูมแผลง แปลงผาย
ค่อยคลี่ ผลิคลาน..............เบ่งสะคราญ บานขจาย
ดอกงาม ยามสยาย............โลกได้ ชื่นชม ฯ

๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แตกต่าง อย่าแตกแยก : โคลงสี่สุภาพ



แตกต่าง อย่าแตกแยก : โคลงสี่สุภาพ

. ความหลากหลายสิสร้าง................ความงาม
แม้แต่รุ่งอรุณยาม.............................แรกแย้ม
สรรพสีคลี่คลายตาม.........................ลำดับ
สายัณห์เยี่ยมเปี่ยมแต้ม.....................พร่างริ้วแผกสรรค์ ฯ

. กุสุมาลย์ลานด้วย..........................หลากสี
ก้าน-กิ่งลักษณะมี.............................ต่างล้วน
ใบ-ผลสุคนธ์พลี...............................รสชาติ
รากแง่งเหง้าเหล่าง้วน.......................แผกให้พานเห็น ฯ

. โลกาก่อเกิดไคล้...........................ของใคร ?
สรรพสิ่งอิงอาศัย...............................ร่วมหล้า
นภาผ่องอำไพ..................................มหาสมุทร
อากาศบริสุทธิ์อ้า...............................โอบอุ้มสรรพชีพ์ ฯ

. ทุกสิ่งถูกสร้างให้............................แปลกผัน
แม้แต่ร่วมเผ่าพันธุ์...............................แผกพ้อง
สามัญยิ่งจริงจรรย์................................ยืนหยัด
เป็นอยู่เคียงคู่คล้อง...............................แห่งห้วงเวลา ฯ

. มองต่างมุมต่างให้..............................แปลกเห็น
คนต่างอย่างยลเป็น................................ยิ่งเยื้อ
สมควรอย่าคิดเข็ญ.................................แยกแบ่ง
ใยเยื่อชนชาติเชื้อ..................................ร่วมพ้องเผ่าพันธุ์ ฯ

๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

น้ำใจใหญ่ ในเด็กน้อย : กลอนแปด

        




น้ำใจใหญ่ ในเด็กน้อย : กลอนคติธรรม

      ในยามบ่าย แห้งแล้ง แห่งชนบท              ฟ้าปรากฏ เจิดจ้า ตะวันฉาย
หญ้าเหี่ยวเฉา ดินเร่าร้อน กร่อนกายใจ                ความเชื่องช้า มาเยี่ยมกราย ไปวันๆ

      เด็กบ้านนอก คอกนา ช่วยหมาน้อย           ด้วยร่างจ้อย ด้อยแรง แดแข็งขัน
ต่อสี่แขน หนึ่งกระเป๋า ยาวเท่าทัน                     อัศจรรย์ บรรเจิด เลิศปัญญา

      เห็นใจจริง ยิ่งใหญ่ ในร่างเล็ก                 หัวใจเด็ก เสกสรร สวรรค์หา
บริสุทธิ์ ผุดผ่องใส ไร้มารยา                            เปี่ยมเมตตา อาดูร เกื้อกูลไกร

      เห็นไปถึง พ่อแม่ และผู้เลี้ยง                  สั่งสอนเยี่ยง วิญญู อุปนิสัย
เป็นบัณฑิต จิตรสวย รวยน้ำใจ                         เผื่อแผ่ให้ ไม่เลือก เทือกเผ่าพันธุ์

      ด้วยคุณธรรม นำให้ บ่ายวันนี้                  เป็นวันศรี วิเศษ เหตุหวนหรรษ์
ความงดงาม ข้ามล้น ท้นตาวัน                         ด้วยคุณธรรม์ ของเด็ก ตัวเล็กเอย ฯ

๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ภาพขำขำ ๒๒


ภาพขำขำ ๒๒



แหม....จริงๆนะ

มาท่องป่า ครานี้ มิเสียเที่ยว

ได้ลูกหมี กลับบ้าน หน้าบานเชียว

เอ่อ...หากได้เหลียว กลับหลัง....วางไวๆ....

.....

ตัวใครตัวมันล่ะ พี่น้อง.....

ตากล้องขอเผ่นก่อน

อะจ๊ากกกกก

                                                                                    *** ﹏⊙ ***


หากไร้ เชือกผูกคอ

ข้าฯจะขอ จรลี

โอย...นี่มัน กลิ่นไรนี่ ?

เหมือนกลิ่น " อี้ " ไม่มีผิด....

แค็ก ๆ ๆ ๆ

แหวะ...

◑▂◐









เรียน ผู้ปกครองทุกท่าน

อย่าได้ให้บุตรหลาน ดูมวยปล้ำ WWE

เป็นอันขาด

อาจอันตราย ถึงชีวิต...( แมว )

เมี๊ยวววววว '''' ﹏⊙ ''''

คร็อกกกก…

+﹏+




เดินตรงมาเรื่อยๆ....

อีกนี้ด....

อีกนี้ดนึง....

อย่างนั้น.....

ดีมาก....











ฮ่ะ...

ฮ่ะ....

ฮ่ะ.....

ฮ้าด...จิ้ววววว














อืม....

อีก 3 เดือน ฝนใหม่ก็จะมาถึงแล้ว

รัฐบาลก็ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

นอกจาก สั่งพร่องน้ำในเขื่อนใหญ่ๆ

เราควรจะตระเตรียมการ อย่างไรดี ?

น้ำท่วมปีที่แล้ว

แกร่วอยู่แต่ในบ้าน

ตั้ง 2 เดือน....


ต้นไม้ ใบหญ้า : กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘




ต้นไม้ ใบหญ้า : กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘

..........................................ต้นไม้ ใบหญ้า
ครอบครอง โลกา...................ก่อนสัตว์ ทั้งหลาย
ปรับเปลี่ยน บรรยากาศ............ให้สะอาด สบาย
จนสัตว์ มากมาย.....................ได้เริ่ม มี-เป็น

............................................ต้นไม้ ใบหญ้า
เปลี่ยนให้ โลกา.......................จากร้อน ผ่อนเย็น
ดึงดูด คาร์บอนฯ.......................ก่อนปล่อย อ๊อกซิเจ็น
ทำให้ ได้เห็น...........................โลกพี ชีวิน

.............................................ต้นไม้ ใบหญ้า
ให้ฝน ปรนฟ้า...........................รักษา หน้าดิน
ป้องกัน น้ำท่วม.........................ร่วมก่อ ธรณิน
กิ่ง-ใบ ให้สิน-...........................แร่ธาตุ งอกงาม

..............................................ต้นไม้ ใบหญ้า
ต้องคลุม พสุธา..........................ถึงหนึ่ง ในสาม
จึงเกิด สมดุล.............................เจือจุน คุณคาม
ทุกข์ภัย ไม่ลาม..........................ทำร้าย มนุษย์ชน

...............................................ต้นไม้ ใบหญ้า
มิถึงหนึ่ง ในห้า..........................ทุรภัย ให้ผล
ภาวะ โลกร้อน.............................ย้อนทุกข์ รุกรน
ทำเป็น ไม่สน..............................คนต้อง ทรมาน ฯ

๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

มาร หัว ขน : กลอนหก



มาร หัว ขน : กลอนหก

      ความมักง่าย ใคร่ราคี.................ไม่ใยดี ศีลธรรม
เมากามา กายถลำ...........................สู่ลำนำ วังน้ำวน

      เกิดภาวะ ปฏิสนธิ......................กลับดำริ " มารหัวขน "
กำจัดไกล ไปให้พ้น.........................จากชีพตน กลบมลทิน

      คนคือ " มาร " ใครกันแน่ ?...........พ่อใจแข้ แม่ใจหิน(แข้=จระเข้)
โหดเหี้ยมร้าย ดำกลายนิล.................สาบสูญสิ้น วิญญาณคน

      " ฆ่า " ได้แม้ แต่ " ลูก " ตัว.........ดีหรือชั่ว ? หัวใจฉล ?
บาปจะตาม ทรามจะดล.....................ให้ทุกข์ท้น ล้นทรมาน

      กามสุขไซร้ แค่ปลายก้อย............รสชาติด้อย อย่าห้อยหาญ
สุขอื่นแสน แม้นโอฬาร......................รสสะคราญ ปัญญาค้น

      จนเปิดใจ ไปพ้น " สัตว์ ".............จงฝึกหัด ศัทธ์กุศล
จงขัดเกรา ไม่เมามน.........................จะพบผล หนทางพีร์

      ประหนึ่งว่า ตาสว่าง....................จิตพราวพร่าง สล้างสุขี
บนหนทาง แห่งความดี......................แสนเปรมปรีดิ์ มีกว่าใด

      ศีลธรรม ช่วยนำพา.....................ใจเริงร่า อย่าอ่อนไหว
ตลอดชีวี ศิวิไลส์..............................บุญส่งใส ไคลทุกข์เอย ฯ

๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ : กาพย์ยานี ๑๑



ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ : กาพย์ยานี ๑๑

      ดูช้าง ให้ดูหาง.....................ดูน้องนาง ให้ดูแม่
สุภาษิต พินิจแด..........................กมลขาน สันดานคน

      แบบเรียน เพียรสอนว่า............รูปหน้าตา ปัญญาชน
พันธุกรรม อำนวยผล.....................ถ่ายทอดจาก พ่อแม่มา

      แต่ดู สุภาษิต.........................บอกใจจิต นิสสัยว่า
มากมาย ถ่ายทอดมา......................เหมือนบิดา และมารดร

      รักคน แค่ยลหยัด.....................รูปสมบัติ ประภัสสร
นิสสัย ไม่อาทร..............................จะเดือดร้อน ลำบากมี

      ความรู้ ความสามารถ.................พันธุพาธ นาถน้องพี่
รักใคร่ ในงามดี...............................หรือชั่วช้า อันธพาล ?

      ซื่อสัตย์ อัชฌาศัย.....................หรือสาไถย ไร้แก่นสาร ?
มุ่งดี วิริยะการย์................................หรือรักชั่ว ตัวเป็นขน ?

      ใจดี มีคุณงาม...........................ถ่ายทอดตาม กรรมพันธุ์คน
สันดาน มานกุศล..............................คู่ตัวตน จนวันวาย

      หากจิต คิดจะรัก........................อย่าง่ายมัก รักจักหาย
เรียนรู้ อย่าดูดาย..............................ดูจิตใจ นิสสัยเอย ฯ

๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

เขยฝรั่ง : กลอนสุภาพ(กลอนแปด)




เขยฝรั่ง : กลอนสุภาพ(กลอนแปด)

      ชายฝรั่ง ต่างภาษา วัยเกษียณ..........หลากหน้าเวียน เปลี่ยนเห็น เป็นกระสาย
บ้างก็อยู่ ถาวร สัญจรกราย.....................รุ่งเช้าสาย-บ่าย-ค่ำ ประจำคน

      ควงสาวไทย ใกล้ชิด สนิทสนม.........เช่นชู้ชม กลมเกลียว มิเปลี่ยวสน
สร้างบ้านช่อง ส่องศรี มีรถยนต์...............เงินทองวน เวียนใช้ ไม่ขาดมือ

      เคยสอบถาม ความว่า เว็บหาคู่..........คือประตู สู่สม นิยมถือ
ส่งรูปไป ชายเห็น เป็นระบือ....................ก่อนอออือ กายใจ ให้แก่เงิน

      ขออภัย ใช้ภาษา กล้าไปหน่อย.........หากมัวคอย คลุมเครือ เกื้อเก้อเขิน
คงไม่รู้ เรื่องจริง สิ่งเผชิญ......................ที่ดำเนิน เดินไป ในสังคม

      เพื่อมุ่งมี ชีวา สะดวกสบาย..............คิดมักง่าย ใช้ทางลัด สวาทสม
ถือทรัพย์สิน เงินตรา ค่านิยม..................เป็นบรม ปรัชญา คติธรรม

      คือปกติ วิสัย จิตใจคน ?..................ยึดถือผล ประโยชน์ โดดถลำ
แลกกับคำ " ความรัก " ประจักษ์จำ..........ก่อกิจกรรม ธรรมเนียม เต็มเปี่ยมเอย ฯ

๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เหมือนไม่ตาย ? : กลอนคติสอนใจ



เหมือนไม่ตาย ? : กลอนคติสอนใจ

      ชีวา...เกิดมาแล้ว ก็ต้องม้วย                  รุ่มรวย......ขวนขวายมาก อยากไฉน ?
หวงแหน...แสนห่วง ประดุจดวงหทัย                 สิ่งใด.......แน่ใจ ว่าใช่ของตน ?

      ชื่อเสียง...ยศเยี่ยงยิ่งใหญ่ ไพศาล            สำราญ..........ต้องการคำชม รมย์ผล
อำนาจ..........สามารถบงการ อิทธิพล                ทรัพย์ล้น.......เป็นหนทาง ล้างมลาย

      โกรธเกลียด...เคร่งเครียด เดียดฉันท์กันนัก   หาญหัก..............เกรี้ยวกราก พากเพียรเบียนบ่าย
อาชญา...............คิดหา มา กล้ำทำลาย               ความตาย............มุ่งหมายให้เขา เมากมล

      แย่งชิง.........สรรพสิ่ง จริงจังอยากได้         อย่างไร้..............ยางอาย สาไถยทุรฉล
มองแค่...............เห็นแก่ตัว หัวใจตน                  ไม่สน.................คนอื่น ขื่นขมกรมกรอม

      อยู่ไป...........ก็ไม่มี ที่รักใคร่                    ตายไป...............ก็ไม่มีใคร ใคร่ถนอม
ปล่อยไป.............ให้หายสาบสิ้น ดินดอม             สูญพร้อม.............ทุกสิ่งหา หวงมาเอย  ฯ

๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

มักใหญ่ ใฝ่สูง : อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

                                                                            Flickr

มักใหญ่ ใฝ่สูง : อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

      มักใหญ่ มิหมายปอง................รชะกอง กิเลสา
กามคุณ มิสุนทรา...........................รติไร้ สลายนันท์

      มักใหญ่ จะไปพ้น.....................ปุถุชน ผละสามัญ
โลกธรรม มิจำนัล...........................อุระเอือม ระอาอาย (จำนัล = เบียดเสียด)

      มักใหญ่ จะใคร่รู้.......................จรณะสู่ นิราสาย (นิร = ออก)
เกิด-ป่วย-ชรา-ตาย..........................ทุกขา สิลาจร

      มักใหญ่ พิสัยศานติ์...................นฤพาน สราญสร
โลกา มิอาวรณ์...............................สมะวัฏ ฏะมายา

      ใฝ่สูง ผดุงศิล(ศีล).....................สละสิ้น วิหิงสา
ทุ่มเท ละเวรา.................................สุจริต นิมิตใจ

      ใฝ่สูง ผดุงธรรม........................กุศลกรรม กระทำไกร
คุณธรรม คณาใส............................ขจรด้วย ขจายดล

      ใฝ่สูง ผดุงสัจ-..........................จะวิรัช สุวัฒน์ผล
สัมมา สุธามน.................................รุจิรา อุฬารมอน

      ใฝ่สูง ผดุงการย์........................ปณิธาณ มิรานรอน
มอบชี วะข้าฯวอน............................ปฏิเวธ วิเศษเทอญ ฯ

๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

อย่าปล่อยตามยะถากรรม : โคลงสี่สุภาพ

                                                                             Flickr

อย่าปล่อยตามยะถากรรม : โคลงสี่สุภาพ

. ในกระแสแห่งห้วง....................มหรรณพ
ปลาว่ายไปประสบ.......................แรงน้ำ
พัดไหลไป่จุดจบ.........................ประจักษ์
ยงอยู่อุทกล้ำ..............................ท่องท้องนที ฯ

. หยุดไหลแน่นิ่งบ้าง....................บางชลา
ไหลเชี่ยวเกลียวกรากถา.................โถมทึ้ง
ไหลค่อยค่อยพลอยพา...................สะดวก
ปลาว่ายไม่นิ่งอึ้ง............................ส่ำสู้กระแส ฯ

. ชีวาชะตาค้ำ...............................กำหนด
ไสผลักหลากบริบท.........................จรดต้อง
ทุกขา/เริงร่า/สลด ฯลฯ.....................ประสบ
ตามแต่กรรมนำข้อง..........................ท่องเบื้องวิบากบน ฯ

. หากจักปองปล่อยด้วย....................ยะถา
ตามแต่โชคชะตา..............................เช่นแพร้ว
เสมือนหนึ่งสูญปัญญา........................อ่อนอาตม์
ประดุจปลาตายแล้ว............................ไป่ห้วนทวนกระแส ฯ

. ถึงเคราะห์หามยามร้าย.....................กรายเรา
เพียรคลี่คลายใจเนา...........................เบาไคล้
ถึงโชคมีมิเอา.....................................ใจใส่
รอแต่งอมือไซร้...................................ไป่ได้ดีเสมอ ฯ

. ถึงอาภัพอับสิ้น.................................วาสนา
จิตจุ่งมุ่งปัญญา....................................ก่อเกื้อ
สุจริตกรรมนำพา...................................สุขสบ
จงอุตสาหะเอื้อ.....................................ภายหน้าดีสนอง ฯ

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

เรือนใจ : กาพย์ยานี ๑๑



เรือนใจ : กาพย์ยานี ๑๑

      เรือนใจ อาศัยอยู่.................เริ่มเป็นผู้ รู้เป็นคน
เคลี่อนไหว ในกมล....................อย่างอิสระ และเสรี

      เรือนใจ ใครเป็นเจ้า ?...........เรือนของเรา เนาสุขี
ตกแต่ง แจงจัดมี.......................อย่างไรดี อยู่ที่เรา

      รักษา ความสะอาด..............มละปราศ พิลาศเสาว์
ระเบียบ เรียบร้อย-เบา................มิอัปลักษณ์ หนักมนมาน

      มั่นคง อลงกต....................งามหมดจด สดใสศานติ์
หนักแน่น เป็นแก่นกานต์.............มิเรรวน ไม่ปรวนแปร

      สุจริต พิศสุภา....................ดั่งดารา จันทราแข
ขจิตใจ พิไลแล........................แม้ประสบ พบครู่เดียว

      เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ให้..............ตระหนี่ไร้ ไม่หนืดเหนียว
ดั่งชล สุคนธ์เชี่ยว.....................ไหลรื่นลุ่ม ชุ่มฉ่ำใจ

      ชุลี ไมตรีจิต......................บุปผาพิศ วิจิตรใส
เบ่งบาน สะคราญไคล................ไปทั่วหล้า จักรวาล

      เรือนใจ สวยได้ด้วย............." ตน "อำนวย ฉลวยฉาน
เกียรติเกริก เปรมเบิกบาน............อยู่ทุกเมื่อ รมย์เรื่อเอย ฯ

๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทุกข์..ในมุมมองใหม่ : กาพย์ฉบัง ๑๖

                                                                     National Geographic 

ทุกข์..ในมุมมองใหม่ : กาพย์ฉบัง ๑๖

      ในคราท้องฟ้าแจ่มใส..............ทิพากรไกร
เมฆไม่มีมากกรากเกิน

      อากาศสะอาดเอื้อเหลือเพลิน..............สุขสราญสรรเสริญ
ดำเนินกิจกรรมตามสบาย

      ในครันจันทร์เพ็ญเย็นพราย..............ดวงดาวพราวฉาย
สดใสในห้วงหฤหรรษ์

      สุขชมสมใจนัยนันท์.............ทั้งคืนทั้งวัน
ไม่เกิดปัญญามีอะไร

      คราวที่สุขีปรีดิ์ไปล่..............สมหวังดั่งใจ
จิตใจไม่ได้ขัดกล่อมเกลา

      ไม่คล้ายคราระกำคล้ำเคล้า.............อุปสรรคหนักเนา
เภทภัยรุมเร้าเข้ามา

      ช่วยทำให้เกิดปัญญา................เรียนรู้สัจจา
พัฒนาความคิดจิตใจ

      อบรมพฤติกรรมอำไพ................ปรับปรุงนิสัย
ทำให้อ่อนน้อมถ่อมกมล

      สอนสู้รู้จักอดทน...............ตรองตรึกฝึกฝน
เปลี่ยนเป็นคนใหม่ประไพศรี

      มาลองมองทุกข์อีกที...............มุมใหม่ให้ดี
ทวีคุณค่าประเสริฐเอย ฯ

๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕