ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554

กลอนแปด : บทเรียนรัก(กลอนอกหัก)

              ดูภาพขนาดใหญ่               
                                 


กลอนแปด : บทเรียนรัก

      มองท้องฟ้า ราตรี คืนนี้เหงา                     มองดวงดาว เพราใส ไร้ความสวย
มองดวงเดือน เหมือนไห้ ใจระทวย                   มองผ่านด้วย ดวงตา ทุกข์ระทม

      กี่วันที่ เราสอง ประคองรัก                        กี่วันที่ รานหัก รักขื่นขม
กี่วันที่ แช่มชื่น รื่นภิรมย์                                 กี่วันที่ อกตรม ซมเดียวดาย

      ไม่ตำหนิ ที่เธอ เผลอรักเขา                      ไม่ตำหนิ ที่เรา เขลาโง่หลาย
ไม่ตำหนิ ที่รัก มาจากกราย                              ไม่ตำหนิ ที่ใคร ทำร้ายเรา

      ขอจดจำ ความรัก ฝากรู้รส                         ขอจดจำ ความคด โฉด-ชั่ว-เขลา
ขอจดจำ บทเรียน เจียนใจเรา                            ขอจดจำ กรำเกลา เฝ้าฝึกตน

      รักครั้งหน้า จะไม่ ให้พลาดผิด                      จะพินิจ จิตใจ นิสสัยสน
จะมองข้าม ความสวย รวยของคน                       จะอดทน กมลมอน ไม่ร้อนรุน

      หากแม้นว่า จะต้องรัก ใครสักคน                   ขอรักจน ชนม์ดับสิ้น ชีวินสุญ
ชีพแห้งเหือด เลือดหยุดไหล กายหมดอุ่น             รักจักกรุ่น พูนเพิ่มไป ไร้เวลา

      รักทั้งที ขอมีรัก ที่หนักแน่น                         ใจโลดแล่น ท่องแดนสรวง ล่วงทิศา
บริสุทธิ์ ผุดผ่องใส ไร้มารยา                               ชุปชีวา สัมประสิทธิ์ ฤทธิการ

      ขอมีรัก สลักจิต สุจริตใจ                              สกาวไกร สุกใสส่อง สนองศานติ์
มิเป็นภัย ไม่ผันผวน พ้นมวลมาร                          รสรักหวาน บานเบิกชื่น รื่นอารมณ์

      เมื่อจะรัก ขอรักเดียว ไม่เหลียวสอง                เพียงหนึ่งปอง ครองรักสิ้น ชีวินสม
ไม่หลายรัก ไม่หลากใจ ไร้ชู้ชม                           ซื่อสัตย์สม อุดมรัก สุภัคเทอญ ฯ

๓๐ เมษายน ๒๕๕๔

วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2554

ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ : ฝากรัก

               
                                         

ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ : ฝากรัก
(ละเลยฉันทลักษณ์)


      นภดล สกลวัฒน์                    พระพายพัด พิรุณริน
ประภาภาพ ละลับสิ้น                     สะท้านนอน สะท้อนเนา

      วิหคนิ่ง มิติงไหว                    อโณทัย อุไรเฉา
สงบกาย สบายเกลา                     มิอยากตื่น ระรื่นตน

       อนงค์นุช พิสุทธิ์พักตร์           หทัยรัก ประจักษ์ล้น
จะตื่นนอน ฤ ซ่อนนนท์                 ประจงจิต คิดคะนึง

      ผิอาจสั่ง พระพายส่ง               วจีจง อนงค์ถึง
จะฝากว่า หทัยตรึง                       สติตั้ง สถิตรัก

      ผิอาจบอก พิรุณบ้าง               ประโลมนาง ถนอมนัก
สวัสดี สรีร์รักษ์                            สุชีวี นิรามัย

      จะวานนก วิหคร้อง                 ระเบ็งซ้อง สนองใส
ลุเพลงรัก สลักใจ                         และตรึงติด สนิทนวล

      ณ บัดนี้ มิสามารถ                  จิขอวาทย์ วิรัชถ้วน
ฤดีพี่ มิแปรปรวน                         เฉพาะเจ้า นะเยาวมาลย์

      ก็ตราบฟ้า มิสลาย                   และตราบไฟ มิผายผลาญ
ตราบชีวิน มิสิ้นวาร                        จะรักเจ้า ทวีเท่าเอย ฯ

๒๙ เมษายน ๒๕๕๔

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

กลอน : คนรัก เท่าผืนหนัง

                                    
                                     


กลอน : คนรัก เท่าผืนหนัง


      บ่ายล้น ฝนริน           ดมดิน กลิ่นอาย
เมฆต่ำ ดำหลาย              ถ่ายท่อง ฟ่องฟ้า

      อากาศ อบอ้าว          ร้อนร้าว หนักหนา
ลมนิ่ง ยิ่งพา                   หวั่นฟ้า ฝนแรง

      ผู้คน ล้นโลก             วิตก โศกแหนง
สักคน ยลแยง                 รักจริง ยิ่งใจ

      คนรัก เท่าหนัง           คนชัง เท่าไหน ?
กรมกำ ทำไม ?                ช่างใคร ใคร่ชัง

      สัมผัส สัจจา              ปัญญา สะพรั่ง
ยึดวาด คาดหวัง               ปล่อยวาง ช่างชิน

      คนดี ให้พัว               คนชั่ว ให้ผิน
คบใคร ใฝ่จินต์                 นิสสัย ใจคน

      พาลพา หาผิด            บัณฑิต หาผล
รักดี นิรมล                       รักชั่ว กลั้วกรรม

      โกศล ผลบุญ              เกื้อกูล คูณค้ำ
ชั่วบาป หยาบทำ                นำสู่ ทุคติ ฯ

๒๘ เมษายน ๒๕๕๔

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

กาพย์ยานี ๑๑ : ให้เลือด ให้ชีวิต

               
                                       


กาพย์ยานี ๑๑ : ให้เลือด ให้ชีวิต

      มือแรง แทงเข็มรู              ทะลุสู่ เส้นเลือดใหญ่
เลือดแดง ฉีดแรงไหล              จากข้อแขน แล่นลงถุง

      วิมล กุศลจิต                     โน้มใจคิด พิสิฐคลุ้ง
สัจจา จาคะจุ่ง                         บริจาค เลือดเป็นทาน

      ๓ เดือน เสมือนได้              ก้าวเข้าไป ใกล้พิมาน
ศรัทธา แด่สาธารณ์                   ไม่เลือกหน้า ฐานะใด

      ให้เลือด ให้ชีวิต                  บุญอุกฤษฏ์ พิสมัย
ผลบุญ สุนทานไทย                    แสนประเสริฐ เลิศนรา

      รักษา ชีวาเขา                      ชีวาเรา เท่ารักษา
ให้ไป ได้คืนมา                           สุขภาพ อนามัย

      ให้อา ยุแก่เขา                      อายุเรา ยืนยาวไหล
ได้มา ถ้าให้ไป                            ตามกฎเกณฑ์ เป็นกฎกรรม

      ทำดี ย่อมได้ดี                       มีผู้ชุบ อุปถัมภ์
สุขะ พละล้ำ                                สำเร็จดัง ตั้งใจเอย ฯ

๒๗ เมษายน ๒๕๕๔ 

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

กลอนแปด : คำกลอนสอนวัยสาว

                                
                             

กลอนแปด : คำกลอนสอนวัยสาว


      ค่านิยม โทรมทราม เรื่องความรัก          หนุ่มสาวมัก ชักชวน รัญจวนหา
เป็นแฟนกัน ฝันใฝ่ ในอุรา                          แทนที่จะ รักเรียน เพียรรักตน

      เมื่อมีรัก อยากโลกีย์ มีราคะ                  ไร้สัมมา สติ ริ อกุศล
กามกรีฑา ท้าทาย ใจมืดมน                        สร้างฉาวฉล มลทิน ท่วมสิ้นใจ

      หากยินดี พลีกาย ใครบอกรัก                 มีอีกนัก อยากบอก(รัก) นึกออกไหม?
หลังลิ้มรส หมดอยาก ก็จากไป                     ทิ้งร่างกาย(ของเรา) ไร้ค่า น่าชิงชัง

      คนใจง่าย ใครเล่า เขามั่นรัก                    มากคนรัก หลากใจ ไร้ความหวัง
คนผ่านมา ผ่านไป ใครจริงจัง                        น้ำตาหลั่ง ฝังใจ ไห้...ราคี

      ปัญหารัก หนักหนา อย่าประมาท              อับจนอาจ ปรารถนา ชีวาหนี
ผู้ใหญ่โดน ยุทธนา รักราวี                             ยังโศกี สติพราก อยากบรรลัย

      ในวัยเรียน อย่าเพียรรัก จักหนักอก            เรื่องโกหก รักรวน ชวนหลงใหล
รักวัยเรียน เปลี่ยนง่าย ไม่จริงใจ                      เกรงอบาย ตั้งใจเรียน เพียรวิทยา

      สำเร็จการ ศึกษา หางานได้                      มีเงินใช้ จ่ายคล่อง ค่อยมองหา
คนรักดี มีศีล ธรรมจรรยา                                ใจสัจจา รักเดียว ไร้เขี้ยว(ลาก)ยาว

      ค่อยเรียนรู้ ดูใจ ไม่เสียตัว                         อย่าเมามัว กลั้วกาม ทำเรื่องเฉา
ใช้เวลา สถานการณ์ สานรักเรา                         มั่นใจเขา เข้าใจกัน งานแต่งมี

      คำบอกรัก "อยากแต่ง" แกล้งกล่าวได้         รีบเชื่อใจ กายทอด วายวอดศรี
รอแต่งจริง นิ่งใจ สบายดี                                จบอย่างมี ความสุข สิ้นทุกข์เทอญฯ

๒๖ เมษายน ๒๕๕๔

วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

กาพย์ฉบัง ๑๖ : สู้ชีวิต

               
                                   


กาพย์ฉบัง ๑๖ : สู้ชีวิต

      ชีวิตคือความกดดัน      สรรพสิ่งสารพัน
ล้วนไร้อะไรสัมบูรณ์

      ขาดแคลนขัดสนพ้นพูน      อนิจจาอาดูร
อุปสรรคปัญหามากมาย

      อย่าเอาแต่คิดสบาย      เชิญชวนขวนขวาย
อุตสาหะพยายาม

      พลั้งพลาดอาจท้อก็ตาม      ตั้งใจให้งาม
รู้คิด ผิด-ชอบ-ชั่ว-ดี

      บาปทรามหยาบช้าราคี      หลีกเลี่ยงเกี่ยงหนี
ทำแต่กุศลกลกรรม

      ผลวิบากจักติดตำ     ทุกสิ่งที่ทำ
ไม่มีใครพ้นกลไก

      ทำดีได้ดีมีชัย      ทำชั่วมัวใจ
ชั่วช้าจะใด้คืนสนอง

      อย่าชอกช้ำน้ำตานอง      ทำตามครรลอง
มุ่งมั่นทำแต่ความดี

      ลำบากยากไร้-ไม่มี      ยิ่งต้องทำดี
อย่าทำชั่ว...ซ้ำ...ทรามลง

      ยิ่งทรามยิ่งต่ำจำจง      สักวันหนึ่งคง
ลงสู่นรกโลกันตร์ ฯ

๒๕ เมษายน ๒๕๕๔

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

กาพย์ สุรางคนางค์ ๒๘ : ขอบคุณ.......

               
                                           

กาพย์ สุรางคนางค์ ๒๘ : ขอบคุณ.......

                          ขอบคุณท้องฟ้า     
ทำให้รู้ว่า                 ดาวเล็กแค่ไหน
แต่ฟ้าไม่เคย             เอ่ยคำหยามใคร    
ฟ้ามีแต่ให้                ได้อยู่ร่วมกัน

๏                           ขอบคุณโลกา   
ทำให้เกิดมา              มีกาย-ชีวัน
ที่อยู่อาศัย                ได้กินสินปัน    
ที่เที่ยว-สร้างสรรค์        ผลงานการย์ดี

๏                           ขอบคุณพ่อ-แม่   
อุ้มชูดูแล                   ตราบชั่วชีวี
ไม่เคยทอดทิ้ง             ลูกลิงตัวนี้  
แม้นดื้อถือดี                มีพรหมวิหารธรรม

๏                             ขอบคุณอาจารย์   
สอนวิชาการ                 ให้ศิษย์เรียน-จำ
ตำหนิ-ติ-ตี                   หวังดีชี้นำ   
ผิด-ชอบ-ชั่ว-กรรม           ทำให้ได้ดี

๏                                ขอบคุณชีวิต      
ปศุสัตว์สิทธิ์                   ค้ำจุนชีวี
จำเป็นต้องกิน                 ใช่ลิ้นราคี    
ขอโทษอีกที                  ไม่มีเจตนา

๏                                 ขอบคุณทุกคน  
อยู่อย่างอดทน                เป็นเพื่อนกันมา
หากอยู่คนเดียว               เปล่าเปลี่ยววิญญาณ์  
อย่าได้ถือสา                   ถ้าทำผิดใจ

๏                                 ขอบคุณธรรมชาติ   
สวยงามสะอาด                  บำบัดทุกข์ไป
ยามใดโศกเศร้า                 แบ่งเบาสลาย  
รักธรรมชาติดาย                 ไม่เบื่อระอา

๏                                   ขอบคุณความรู้      
ดวงตา-ประตู                     เปิดสู่สัจจา
เป็นเครื่องบันเทิง                เถลิงปัญญา    
ให้ทึ่ง-พึ่งพา                     ขจัดเภทภัย

๏                                   ขอบคุณสิ่งสรรพ์  
ที่ช่วยเหลือฉัน                   มั่นคงจิตใจ
ฉันคงไร้ค่า                        เกิดมาแค่ไคล
สร้างบทกวีไว้                     ให้เป็นอนุสรณ์ ฯ

๒๔ เมษายน ๒๕๕๔

กาพย์ยานี ๑๑ : กัลยาณี

            
                             


กาพย์ยานี ๑๑ : กัลยาณี


          ธรรมชาติ อิสตรี              มากมี ราคะวิสัย ( รักสวยรักงาม )
หลงรูป บุรุษใด                         อย่างไม่ ลืมหูลืมตา

          เด็กสาว จงเท่าทัน           สัญชาตญาณ อันแน่นหนา
อย่าทำ ตามพาลา                  จะเสียหาย ทำลายตน

           เสียตัว มัวเมาง่าย          ชายรู้ใจ ใครจะสน
ใช้เป็น ของเล่นตน                    สมใจอยาก ก็จากลา

          รักดี ไม่พลีกาย              รักใคร อย่าคลายปัญญา
รักพรหม จรรยา                       รักษาตน จนแต่งงาน

          อย่ามัก มากคนรัก          กระสันอยาก จักพรากศานติ์
อย่าทิ้ง สิ่งสะคราญ                   คือคุณค่า กัลยาณี

          อย่าหลง ว่ารูปสวย          เป็นตัวช่วย รวยสุขี
จนทอด ทิ้งความดี                    รักษาไว้ แต่ใจทราม

          จงเป็น สุกัญญา              เป็นมารดา สง่างาม
มีค่า ควรจดนาม                        อิสตรี ศรีสกุล ฯ

๒๔ เมษายน ๒๕๕๔