ข้อความถึง โมโมน้อย เรื่อง การบวชชีพราหมณ์และอุทิศส่วนบุญ

             
                                               

 ข้อความถึง โมโมน้อย เรื่อง การบวชชีพราหมณ์และอุทิศส่วนบุญ  

โมโมน้อย

พี่ไม่รู้ว่า น้องเข้าใจในหลักการบวชชี - วิธีทำให้ได้บุญ - การอุทิศส่วนบุญ-กฏแห่งกรรม ฯลฯแค่ไหน?
พี่อยากให้น้อง อ่านคำแนะนำของพี่ดีๆ ดังนี้...
นี่คือความจริงจ้ะ
๑..พิธีกรรมการบวช ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ได้บุญ เสียเวลามาก เสียเงินเปล่าๆ
๒. การทำให้ได้บุญ ไม่จำเป็นต้องบวช (พี่บวชเป็นพระธุดงค์เกือบ ๑๐ ปี ยังสึกเลย ลองคิดดู)
๓.หลักการทำให้ได้บุญคือ (ดูตาม ลิงค์ )
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๔๖
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=บุญกิริยาวัตถุ
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%BA%D8%AD%A1%D4%C3%D4%C2%D2%C7%D1%B5%B6%D8
๔.น้องต้องอยู่ดูแลแม่+อ่านหนังสือสอบ ทำอย่างนี้ก็ได้บุญอยู่แล้ว
๕.ทุกชีวิตมีกรรมเป็นของของตน ทำกรรมอะไรไว้ ก็ต้องรับผลกรรมนั้น
 แม่ของน้องป่วย ก็เป็นเพราะแม่ของน้องทำกรรมไว้ จึงต้องรับผลกรรมตามที่ได้ทำไว้แล้ว
 โมโมจะไปแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก  แม้แต่พระพุทธเจ้ายังหนีผลกรรมของตัวเองไม่พ้นเลย
๖.น้องควรชวนแม่ ให้ทำบุญด้วยตัวเอง ไม่ใช่น้องมาทำแทนแม่ บุญ-บาปนั้น มันทำแทนกันไม่ได้
 อย่าถูกคนโง่หลอกให้เราโง่ตามเขา
 เรื่องสะเดาะเคราะห์ การลบล้างกรรม ก็คือการแหกตากัน ....โง่ไปตามๆกัน
๗.น้องจงอยู่บ้าน เพื่อดูแล แม่ และสร้างอนาคตของตัวเองให้ดีๆ
   ไม่ต้องไปบวชชี-อาศัยอยู่ในวัด ทิ้งบ้าน ทิ้งแม่ ทิ้งการเรียน ไม่ใช่ความคืดที่ฉลาดเลย
  เรื่องพีธีกรรมทางศาสนา-ไสยศาสตร์-อาคมทั้งหลาย ขอให้มาถามพี่
  พี่รู้ดี-ไม่โง่-ไม่งมงาย

ขอให้เชื่อพี่นะจ้ะ
การจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร
ในพระไตรปิฎกไม่มีการกล่าวไว้เลย
เพราะว่า ทำไม่ได้หรอก

ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็ต้องรับกรรมทั้งหมด
ทำดีก็ได้ดีเอง ทำชั่วก็ต้องชดใช้เอง

กฎแห่งกรรมจะเป็นผู้จัดการเรื่องนี้
ไม่ใช่ว่ามีเจ้ากรรมนายเวร มาติดตามคอยจองเวร...
คนมีกิเลส มีมิจฉาทิฏฐิ..มีอวิชชาพากันคิดเอาเองกันทั้งนั้น

เจ้ากรรมนายเวรเค้าก็ต้องไปเกิด-ไปมีชีวิต ตามเวรตามกรรมของเค้า
ไม่ได้มาคอยตามเฝ้าเราซะที่ไหน
เราก็อยู่ส่วนเรา เค้าก็อยู่ส่วนเค้า
ต่างคนต่างอยู่
ต่างต้องรอรับผลกรรมที่ทำไปด้วยตัวเอง

ส่วนบุญ...ก็เช่นกัน.....อุทิศให้กันไม่ได้
แม้แต่พระพุทธเจ้าที่มีบุญมากที่สุดในสรรพภพสรรพภูมิ เป็นกัปกัลป์ 

ยังอุทิศส่วนบุญให้ใครไม่ได้เลย
อย่างที่บอกไว้

แม้แต่พระพุทธเจ้าเองก็ต้องชดใช้กรรมของตัวเอง 

ขนาดทำดีจนเป็นพระพุทธจ้า ยังหนีกรรมเก่าไม่พ้น

เพราะฉะนั้น จงจำเอาไว้

อย่าทำบาป ทำแต่ความดี....เท่านั้น

กรณีที่เวลาเรากำลังรับผลกรรมอยู่ กำลังเป็นทุกข์

แล้วเราตัดสินใจสร้างบุญสร้างกุศลในขณะนั้น

แน่นอนว่า ผลของบุณ-กุศลที่เพิ่งสร้างขึ้น ย่อมมีผลในทันที(มีบ้าง อย่างน้อยก็ทางจืตใจ)

ทำให้เรามีความสุข-สบายใจ ที่ได้ทำบุญ-กุศล

แต่ไม่ใช่เป็นการลบล้างเวรกรรมเก่า

ขอให้เข้าใจด้วย 

๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓