ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

กลอน : ความเป็นพระ

       

กลอน : ความเป็นพระ


      ปังปังปัง เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง เสียงประทัด           ดังจากวัด ถนัดถนี่ ถี่ถี่แถว
เด็กหญิงชาย กระจายเล่น เต้นเต้นแนว                   ตาใสแป๋ว เสียงแจ้วแจ้ว แว่วแว่วมา

      ใกล้เวลา วัสสาเคลื่อน มาเตือนขัด             เสียงประทัด ประกาศบอก จะออกพรรษา
ทิวาวัน เริ่มสั้นยล สนธยา                                   พิรุณรา เมฆาเลื่อน ลางเลือนลง

      ใกล้สิ้นแรง แสงตะวัน จรัญสี                         รัศมี ระวีระบาย ละม้ายหลง
เหลือง,แสด,แดง แพลงชมพู พรั่งพรูพงศ์               ค่อยจางตรง โค้งขอบฟ้า ลับตาไป

      รอบวิหาร ลานอุโบสถ โกศเจดีย์                    ไร้รังสี ไม่มีเสียง เพียงหลับใหล
เดินเข้าโบสถ์ โสตสำเนียง เสียงก้องไกร                 ก้มกราบไหว้ ปฏิมา พุทธากร

      พุทธพักตร์พริ้ง ดั่งหญิงสาว พราวเสน่ห์            ไร้กิเลส์ เสอุบาย สาไถยถอน
แทนธรรมะ ที่สะอาด พิลาสพร                            ดับทุกข์ร้อน ถอนกำหนัด ตัดวัฏฏา

      เทียนถูกจุด จนกุดกลม ล้มระนาบ                   ก้านธูปดับ ตราบปักอยู่ คู่กระถาง์
ดอกบัวแห้ง ไร้แรง..หล่น บนบาทา                       อนิจจา ลักษณะ สะดุดใจ

      โอ้...ตัวเรา ก็เท่านี้ ยังมีทุกข์                        ต้องล้มลุก คลุกคะเมน เป็นอสงไขย
ปฏิญาณ พรหมจรรย์..ขอ สืบต่อไป                      ไม่มั่นหมาย ในวิจิตร อิสตรี

      "ความเป็นพระ" ใช่แค่ผ้า หาห่มกาย             แต่ใจอาย ใสสะอาด ด้วยสัจจ์ศีล์
" เป็นพระ"ชี้ ที่หัวใจ ไร้ราคี                              ทรงพุทธี วุฒิธรรม ส่องอำไพ

      เป็น"พุทธะ ฆราวาส" ไม่ขัดติด                   ใช้ชีวิต "คิดอย่างพระ" กุศลาศัย
ปฏิบัติ เพื่อขัดเกลา พราวจิตใจ                           ไม่อาลัย ในกาเม อยู่เอองค์

      ประกอบกรรม ทำสัมมา อาชีวะ                     ศีลสมา...ธิปัญญา ศึกษาสงค์(สงค์=การข้องอยู่)
ไตรปิฎก ปกติ มิวางลง                                    หวังยังคง "ความเป็นพระ" สถาพร ฯ

                                                                              ๓๐ กันยายน ๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น